อวัยวะใดทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย

• ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือดแดง

• ผิวหนัง เซลล์เม็ดเลือดขาว

• เซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด

• เซลล์เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด

ภูมิคุ้มกันที่มีมาตั้งแต่กำเนิด หมายถึงข้อใด

• ภูมิคุ้มกันรับมา

• ภูมิคุ้มกันก่อเอง

• ภูมิคุ้มกันที่จำเพาะเจาะจง

• ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

เชื้อโรคสามารถฝ่ากลไกการป้องกันต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้เนื่องจากเชื้อโรคมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร

• เชื้อโรคมีขนาดใหญ่

• เชื้อโรคไม่ทนต่อกรดหรือเอมไซม์

• เชื้อโรคมีขนาดเล็ก เพิ่มจำนวนได้เร็ว

• เชื้อโรคมีขนาดใหญ่ และไม่ทนต่อกรดหรือเอมไซม์

กลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบจำเพาะของระบบน้ำเหลืองทำงานโดยวิธีใด

• สร้างฟาโกไซต์

• สร้างมอโนไซต์

• สร้างลิมโฟไซต์

• สร้างฟาโกไซโทซิส

ถ้าเด็กแต่ละคน ไม่ได้ รับวัคซีนป้องกันโรคหลายๆชนิด เด็กแต่ละคนจะเป็นอย่างไร

• ร่างกายจดจำเชื้อโรคได้เอง

• ร่างกายสามารถต้านทานโรคได้

• ร่างกายสามารถกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันที่เฉพาะโรคได้

• ร่างกายไม่สามารถกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันที่เฉพาะโรคได้

กระเพาะอาหาร สามารถทำลายเชื้อโรคที่ปะปนมากับอาหารได้เพราะอะไร

• กระเพาะอาหารมีสภาพเป็นด่าง

• กระเพาะอาหารมีสภาพเป็นเบส

• กระเพาะอาหารมีสภาพเป็นกลาง

• กระเพาะอาหารมีสภาพเป็นกรด

เยื่อบุทางเดินหายใจมีโครงสร้างอะไรที่ช่วยให้จุลินทรีย์หรือสิ่งแปลกปลอมถูกดักไว้ด้วยเมือกในหลอดลม

• ซิเลีย

• เท้าเทียม

• แฟลเจลลัม

• ซูโดโพเดียม

ข้อใด ไม่ อาศัยหลักการของกลไกป้องกันและกำจัดเชื้อโรคของร่างกาย

• จามเมื่อมีฝุ่นฟุ้ง

• หาวเมื่อง่วงนอน

• น้ำตาไหลเมื่อมีฝุ่นเข้าตา

• กระพริบตาเมื่อมีลมพัดผ่าน

การตรวจหมู่เลือดมีวิธีในการทดสอบอย่างไร

• หยดน้ำยาแอนติบอดี A 2 หยดบนสไลด์

• หยดน้ำยาแอนติบอดี B 2 หยดบนสไลด์

• หยดน้ำยาแอนติบอดี D 2 หยดบนสไลด์

• หยดน้ำยาแอนติบอดี A และ B 2 หยดบนสไลด์

ผู้ที่มีหมู่เลือด A สามารถให้เลือดแกผู้รับที่มีหมู่เลือด B ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

• ได้ เพราะผู้ให้มีแอนติเจน A ผู้รับมีแอนติบอดี A

• ได้ เพราะผู้ให้มีแอนติเจน A ผู้รับมีแอนติบอดี B

• ไม่ได้ เพราะผู้ให้มีแอนติเจน A ผู้รับมีแอนติบอดี A

• ไม่ได้ เพราะผู้ให้มีแอนติเจน A ผู้รับมีแอนติบอดี B