ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มีความสำคัญอย่างไร

• เป็นกระบวนการสำหรับนักวิทย์

• เป็นทักษะที่แสดงถึงการมีกระบวนการคิด อย่างมีเหตุ มีผล

• เป็นทักษะที่ใช้องค์ความรู้หลากหลาย

• เป็นทักษะที่ต้องฝึกประจำ

ข้อใดไม่ใช่ทักษะทางวิทยาศาสตร์

• การสังเกต

• การวัด

• การคาดคะแนคำตอบ

• การจำแนกประเภท

• การเก็บข้อมูล

การวัดความหนาของเหล็กที่นำไปทำค้อนตีควรใช้เครื่องมือ

• เวอร์เนีย

• ตลับเมตร

• ไม้บรรทัด

• ไม้โปรแทคเตอร์

ข้อใดไม่ใช่กิจกรรมการแปลความหมายข้อมูล

• นำเสนอข้อมูล

• การรวบรวมข้อมูล

• การบันทึกข้อมูลลงในตาราง

• การเขียนกราฟลงในพิกัดฉาก

แดงชอบกินส้มตำแดงบอกว่าอร่อยมาก แดงใช้การสังเกตโดยอาศัยประสาทสัมผัสทางใด

• จมูก

• ตา

• ลิ้น

• ปาก

ข้อใดไม่ใช่ลักษณะนิสัยของนักวิทยาศาสตร์

• ช่างสังเกตมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้

• มีเหตุผลและรู้จักยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น

• ตัดสินเหตุการณ์โดยใช้ความคิดเห็นของตนเอง

• ซื่อสัตย์ต่อผลการทดลองที่ได้

นักเรียนสามารถนำข้อมูลจากการสังเกตวัดทดลองมาจัดระบบใหม่โดยเรียงลำดับแยกประเภทให้ง่ายต่อการแปลความหมายข้อมูลเป็นทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ด้านใด

• การคำนวณ

• การสื่อความหมายข้อมูล

• การแยกประเภท

• การกำหนดและควบคุมตัวแปล

กระบวนการทางวิทยาาศาสตร์หมายถึงข้อใด

• การทำงานเป็นขั้นตอนตามลำดับของแผนที่กำหนดไว้

• การทดสอบต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นจริงนิรันดร์กาล

• การรวบรวมข้อมูลที่เป็นรูปธรรมมาวิเคราะห์และรายงาน

• การนำความคิดย่อยมาสรุปรวมเป็นหลักการแล้วทดสอบหลักการ

สมมติฐานทางวิทยาศาสตร์จะเปลี่ยนเป็นทฤษฏีได้เมื่อใด

• มีเครื่องมือพิสูจน์

• ทดสอบแล้วเป็นจริงทุกครั้ง

• เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

• อธิบายได้กว้างขวาง

เมื่อใส่น้ำแข็งลงในแก้วแล้วตั้งทิ้งไว้สักครู่จะพบว่ารอบนอกของแก้วมีหยดน้ำเกาะอยู่เต็ม ข้อใดเป็นผลจากการสังเกต และบันทึกผล

• มีหยดน้ำขนาดเล็กและขนาดใหญ่เกาะอยู่จำนวนมากที่ผิวแก้ว

• แก้วน้ำรั่วเป็นเหตให้น้ำซึมออกมาที่ผิวนอก

• ไอน้ำในอากาศกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะอยู่รอบแก้ว

• หยดน้ำที่เกิดเป็นกระบวนการเดียวกับการเกิดน้ำค้าง