กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานเป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลใด

• รัชกาลที่ 1

• รัชกาลที่ 2

• รัชกาลที่ 3

• รัชกาลที่ 4

ข้อใดเป็นจุดประสงค์ของการแต่งกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

• เพื่อความเพลิดเพลินระหว่างเดินทาง

• เพื่อเป็นบทขับร้องในประเพณีแข่งเรือ

• เพื่อรวบรวมรายชื่ออาหารที่เป็นที่นิยมของราชสำนัก

• เพื่อเป็นบทเห่เรือในการเสด็จประพาสส่วนพระองค์

อาหารหวานชนิดใด ที่นิยมใช้ในงานมงคลและสื่อความหมายถึงความสำเร็จและมีเกียรติยศสูงสุด

• ทองหยิบ

• บัวลอย

• จ่ามงกุฎ

• ขนมเทียน

ข้อใดจัดเป็นอาหารคาวทั้งหมด

• ไตปลา มัศกอด ลุดตี่

• หรุ่ม รังไร น้ำยา

• รังนก ล่าเตียง แสร้งว่า

• ลำเจียก ข้าวหุงเครื่องเทศ ช่อม่วง

คำในข้อใดเป็นชื่อเรียกเครื่องเทศ

• เป็นมันย่องล่องลอยมัน

• หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

• ของสรรค์เสวยรมย์

• พิศห่อเห็นรางชาง

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน สะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนในเรื่องใด

• ฝีมือในการจัดอาหาร

• ฝีมือในการปรุงอาหาร

• ฝีมือในการจัดโต๊ะเสวย

• ฝีมือในการจัดอาหารคาวหวาน

“ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา” คำว่า “ภุญช์” มีความหมายตรงกับข้อใด

• อร่อย

• อิ่ม

• อาหาร

• รับประทาน

ข้อใดไม่ใช่อาหารในบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

• รังนก

• ยำใหญ่

• ต้มยำกุ้ง

• ล่าเตียง

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใด

• โคลงผสมกาพย์

• โคลงผสมร่าย

• กลอนแปดผสมโคลง

• กาพย์ผสมกลอน

“ รางชาง ” หมายความว่าอย่างไร

• อร่อยมาก

• รสจัดมาก

• สวยงามมาก

• หอมมาก