ข้อใดไม่สัมพันธ์กับความหมายของประโยค

• แสดงให้รู้ว่า ใคร ทําอะไร ที่ไหน อย่างไร

• การแสดงซึ่งส่วนสําคัญและหน้าที่ของประโยค

• การนําคําหลายๆ คํา หรือวลีมาเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ

• การเรียงต่อคําหรือวลีให้แต่ละคํามีความสัมพันธ์กัน มีใจความสมบูรณ์

ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับส่วนขยายของประโยค

• ทําให้ทราบว่าใคร ทําอะไร ที่ไหน อย่างไร

• ไม่ควรขยายประโยคจนทําให้ประโยคสับสน

• ไม่ควรขยายประโยคจนทําให้ประโยคกํากวม

• ทําให้ประโยคสามารถสื่อสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับองค์ประกอบของประโยค

• บทกรรมทําหน้าที่เป็นผู้กระทํา

• ภาคประธานของประโยค ทําหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทํา

• บทกริยา ทําหน้าที่เป็นตัวกระทําหรือตัวแสดงของประธาน

• ส่วนเติมเต็มทําหน้าที่ขยายกริยา ขยายกรรม หรือส่วนขยาย

ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของภาคแสดง

• บทกริยา

• บทกรรม

• ส่วนเติมเต็ม

• ส่วนขยายของประโยค

“ฉันรู้สึกสดชื่นเมื่อได้อาบน้ํา” คําที่ขีดเส้นใต้ เป็นประโยคที่ไปขยายสิ่งใด

• ฉัน

• . เมื่อ

• รู้สึกสดชื่น

• ไม่ได้ขยายคําใด เพราะมีความหมายในตัว

ไม่ได้ขยายคําใด เพราะมีความหมายในตัว

• ส่วนขยาย

• ภาคแสดง

• ภาคประธาน

• ภาคประธานและภาคแสดง

คําที่ขีดเส้นใต้ในประโยคใดที่เน้นผู้ถูกกระทํา

• ฉันถูกแม่ดุ

• ฝนตกตอนเย็น

• ชาคริตเล่นฟุตบอล

• ใครซื้อก๋วยเตี๋ยวมา

ประโยคใดมีโครงสร้าง ประธาน กริยา และกรรม

• แม่ค้ากําลังวุ่นวาย

• การค้าขายดีมีกําไร

• คุณพ่อกําลังทาสีบ้าน

• คนงานหยุดพักกลางวัน

ข้อใดไม่ใช่รูปประโยคที่ใช้ในภาษาไทย

• ประโยคที่เน้นกริยา

• ประโยคที่เน้นสรรพนาม

• ประโยคที่เน้นผู้กระทํา

• ประโยคที่เน้นผู้ถูกกระทํา

“ลมร้อนพัดมาอบอ้าว” คําใดที่ขยายประธานของประโยค

• มา

• พัด

• ร้อน

• อบอ้าว