เมื่อหย่อนเกล็ดด่างทับทิมลงในน้ำที่อยู่ในบีกเกอร์จะเกิดการเเพร่ขึ้น นักเรียนคิดว่าถ้ามีการเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น อัตราการเเพร่จะเป็นอย่างไร

• เท่าเดิม

• ช้าลง

• เร็วขึ้น

• ไม่มีผลต่อการเเพร่

ข้อใดเป็นตัวอย่างการเเพร่ในชีวิตประจำวัน

• การเกิดเมฆ

• การรดน้ำต้นไม้

• การฟุ้งกระจายของน้ำหอม

• การเกิดฝน

ข้อใดอธิบายความหมายของการออสโมซิสได้ชัดเจนที่สุด

• การเคลื่อนที่ของน้ำผ่านเยื่อบางๆ ไปยังบริเวณที่มีน้ำมากกว่า

• การเคลื่อนที่ของน้ำจากบริเวณที่มีน้ำมากไปยังบริเวณที่มีน้ำน้อย

• การเคลื่อนที่ของสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นมากไปยังบริเวณที่สารละลายเจือจาง

• การเคลื่อนที่ของน้ำจากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารละลายต่ำผ่านเยื่อบางๆ ไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารละลายสูง

น้ำในดินเข้าสู่เซลล์ขนรากของพืชโดยกระบวนใด

• การเเพร่

• การดูดซับ

• การลำเลียง

• การออสโมซิส

โครงสร้างที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงน้ำและเเร่ธาตุ เรียกว่า

• ไซเล็ม (Xylem)

• โฟลเอ็ม (Phloem)

• เซลล์ (cell)

• พิธ (pith)

ทิศทางการลำเลียงน้ำและเเร่ธาตุของพืช มีทิศเป็นอย่างไร

• ทิศขึ้นตลอด

• ทิศลงตลอด

• มีทั้งทิศขึ้นและลงในเวลาเดียวกัน

• ไม่แน่นอน

กระบวนการสังเคราะห์ด้วยเเสงจะเกิดขึ้นในเวลาใด

• เฉพาะตอนกลางคืน

• เฉพาะตอนกลางวัน

• เวลาที่มีเเสง

• เมื่อพืชต้องการอาหาร

เซลล์คุมที่พบอยู่บริเวณใบ ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของสารในข้อใด

• อาหารและน้ำ

• แก๊สและไอน้ำ

• อาหารและแก๊ส

• น้ำตาลและแป้ง

ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยในการสร้างอาหารของพืช

• แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

• แก๊สออกซิเจน

• น้ำ

• เเสงสว่าง

ข้อใดเป็นผลผลิตที่เกิดการกระบวนการสังเคราะห์ด้วยเเสง

• แป้ง น้ำ และโอโซน

• น้ำตาลกลูโคส แก๊สออกซิเจน

• น้ำตาลกลูโคส แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ

• น้ำตาลกลูโคส แก๊สออกซิเจนและน้ำ