1. ข้อใดคือความหมายของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ที่สมบูรณ์ที่สุด

• ก. สถานที่พบปะระหว่างประชาชนที่มีความต้องการอย่างเดียวกัน

• ข. การติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจนเกิดการตกลงซื้อขายกัน

• ค. แหล่งที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน

• ง. กลุ่มของผู้ผลิตสินค้าและบริการ

2. ข้อใดคือความแตกต่างระหว่างตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาดกับตลาดที่มีการแข่งขันสมบูรณ์

• ก. มีผู้ซื้อผู้ขายจำนวนมาก

• ข. การเข้าออกจากตลาดเป็นไปโดยเสรี

• ค. การติดต่อซื้อขายกระทำได้โดยสะดวก

• ง. มีการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า

ข้อใดอธิบายความสัมพันธ์ตามกฎของอุปสงค์

• การที่ผลไม้ชนิดอื่น ๆได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

  เป็นผลให้ราคาสูงขึ้น

• การที่ปริมาณเสนอซื้อแก๊สหุงต้มต่ำลงเป็นผลจากการประกาศขึ้นราคาของรัฐบาล

• การที่ปริมาณเสนอซื้อข้าวโพด A ลดต่ำลง เป็นผลจากการที่ราคาข้าวโพด B ลดต่ำลง

• การที่กลุ่มประเทศโอเปกเข้ามาควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันเป็นผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

ข้อใดเป็นไปตามกฎอุปทาน

• ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าออกจำหน่ายเพิ่มขึ้น ถ้าราคาสินค้าสูงขึ้น

• ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าออกจำหน่ายเพิ่มขึ้น ถ้าราคาปัจจัยการผลิตลดลง

• ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าออกจำหน่ายเพิ่มขึ้น ถ้าผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น

• ปริมาณการผลิตสินค้าจะผันตามความต้องการของผู้บริโภคและราคาปัจจัยการผลิต

ข้อใดมีความสัมพันธ์กับกฎอุปสงค์

• คุณพ่อซื้อรถยนต์คันใหม่ เพราะต้องการรับส่งลูกๆไปโรงเรียน

• คุณลุงซื้อแว่นตามาใหม่ 1 อัน เพราะถูกใจแบบและสี

• คุณแม่ซื้อร่มใหม่ 2 คัน เพราะร้านค้าลดราคาในฤดูฝน

• คุณป้าซื้อตุ๊กตาให้หลาน เพราะได้รับเงินเดือนขึ้น

เมื่อเกิดมีอุปสงค์ส่วนเกินในตลาด ตลาดจะมีการปรับตัวอย่างไร

• ราคาสินค้าลดลง ปริมาณเสนอซื้อจะสูงขึ้น ปริมาณเสนอขายจะลดลง

• ราคาสินค้าลดลง ปริมาณเสนอซื้อจะลดลง ปริมาณเสนอขายจะสูงขึ้น

• ราคาสินค้าสูงขึ้น ปริมาณเสนอซื้อจะสูงขึ้น ปริมาณเสนอขายจะลดลง

• ราคาสินค้าสูงขึ้น ปริมาณเสนอซื้อจะลดลง ปริมาณเสนอขายจะสูงขึ้น

ถ้าราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆนักเรียนคิดว่ารัฐบาลควรมีวิธีการแทรกแซงราคาแบบใด เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค

• สร้างปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น

• การควบคุมราคาน้ำมัน

• ลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย

• การพยุงราคาน้ำมัน

รัฐบาลจะใช้นโยบายหรือกฎข้อบังคับเพื่อแทรกแซงราคาในกรณีใดมากที่สุด

• สินค้าเกษตรล้นตลาด

• กรณีไม่มีผู้ดำเนินการผลิตสินค้าและบริการ

• เกิดการกักตุนสินค้าในช่วงภาวะสินค้าขาดแคลน

• เกิดภาวะขาดแคลนหรือสงครามทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น

ข้อใดคือวิธีการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของรัฐบาล

• ลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย

• เก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูง

• สร้างปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น

• ออกกฎหมายลงโทษผู้กระทำความผิด

ข้อใดไม่ใช่นโยบายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐที่มีต่อประเทศชาติ

• สร้างเสถียรภาพของสถาบันการเงินภายในประเทศ

• สนับสนุนด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

• เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

• ให้ความช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้างและผู้ว่างงาน