นิราศภูเขาทองแต่งขึ้นในสมัยใด

• สมัยรัชกาลที่ 1

• สมัยรัชกาลที่ 2

• สมัยรัชกาลที่ 3

• สมัยรัชกาลที่ 4

ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับนิราศ

• นิยมแต่งเพื่อพรรณนาการเดินทาง

• คร่ำครวญถึงพ่อแม่ที่ต้องเดินทางจากมา

• ใช้เห่กล่อมเจ้านายเพื่อให้ข้อคิด คติเตือนใจ

• มีจุดมุ่งหมายในการยอพระเกียรติของกษัตริย์

ข้อใดมีความหมายเหมือนกับบทประพันธ์ต่อไปนี้

“ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์

มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต

แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร

จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา”

• พูดจนลิงหลับ

• พูดดีเป็นศรีแก่ปาก

• น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง

• พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

เพราะเหตุใด พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงตั้งชื่อเมืองสามโคกว่าเมืองปทุมธานี

• เพราะมีดอกบัวขึ้นอยู่มาก

• เพราะเป็นตลาดค้าบัวขนาดใหญ่

• เพราะชาวเมืองนี้นิยมทำนาบัวเป็นอาชีพ

• เพราะมีคนนำฝักบัวที่มีชื่อเสียงของสามโคกมาถวาย

ข้อใดแสดงให้เห็นถึงการประกอบอาชีพประมง

• ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง

• ทั้งของสวนล้วนแต่เรือเรียงราย

• มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย

• ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย

“โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา

ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย”

คำที่เป็นตัวหนามีความหมายว่าอย่างไร

• น้ำตา

• น้ำเมา

• น้ำคร่ำ

• น้ำสกปรก

คำในข้อใดมีความหมายว่า ดอกบัว ทุกคำ

• บุษบา บุบผา กชกร

• บุษบัน บุษบา บุษกร

• ปทุม มาลี กชกร

• อุบล บุษกร ปทุม

ข้อใดแสดงให้เห็นถึงความเชื่อของสังคมไทย

• จนแจ่มแจ้งแสงตะวันเห็นพันธุ์ผัก

  ดูน่ารักบรรจงส่งเกสร

  เหล่าบัวเผื่อนแลสล้างริมทางจร

  ก้ามกุ้งซ้อนเสียดสาหร่ายใต้คงคา

• สายติ่งแกมแซมสลับต้นตับเต่า

  เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา

  กระจับจอกดอกบัวบานผกา

  ดาษดาดูขาวดั่งดาวพราย

• เห็นโศกใหญ่ใกล้น้ำระกำแฝง

  ทั้งรักแซงแซมสวาทประหลาดเหลือ

  เหมือนโศกพี่ที่ช้ำระกำเจือ

  เพราะรักรื้อแรมสวาทมาคลาดคลาย

• งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม

  ดังขวากแซมเสี้ยมแทรกแตกไสว

  ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย

  ก็ต้องไปปีนต้นน่าขนพอง

สถานภาพของผู้แต่งขณะที่แต่ง นิราศภูเขาทอง คือข้อใด

• พระนาย

• จมื่น

• พระสงฆ์

• ชาวบ้านสามัญชน

สุนทรภู่เดินทางไปกับใคร

• หนูจันทร์

• หนูปุ๊ก

• หนูพล

• หนูพัด