การดูแลรักษาเสื้อผ้ามีความสำคัญมากที่สุดอย่างไร

• ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่บ่อย ๆ

• ถนอมเนื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

• ผู้อื่นจะได้ชื่นชมเมื่อสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงาม

• ไม่เสียเวลาในการตกแต่ง หรือดัดแปลงเสื้อผ้า

ข้อใดคือวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างถูกต้อง

• ซักผ้าสีและผ้าขาวรวมกัน

• เสื้อที่มีรอยเปื้อนโคลน ให้รีบนำไปซักทันที

• เสื้อที่เปียกเหงื่อ ควรผึ่งให้แห้งก่อนใส่ตะกร้า

• แขวนเสื้อในตู้ที่มีความชื้น เมื่อสวมใส่จะได้รู้สึกเย็น

หากต้องการให้เสื้อผ้ามีสีขาว ไม่ซีด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแลรักษาเสื้อผ้าชนิดใด

• สารปรับผ้านุ่ม

• สารฆ่าเชื้อโรค

• สารเพิ่มความขาว

• สารตกแต่งผ้าให้แข็ง

หลังจากสวมใส่รองเท้าแล้ว ควรเก็บรักษาอย่างไร

• วางผึ่งไว้ก่อน แล้วนำเก็บเข้าตู้รองเท้า

• เก็บใส่ตู้รองเท้าทันที เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน

• ซักให้สะอาดทุกครั้งหลังสวมใส่ เพื่อความสะอาด

• ใช้แปรงปัดฝุ่นและขัดด้วยน้ำยาขัด ก่อนเก็บเข้าตู้รองเท้า

น้ำยาขัดเครื่องหนังเหมาะกับผลิตภัณฑ์ในข้อใด

• แว่นตาที่มีคราบมัน

• รองเท้าที่เลอะคราบโคลน

• เข็มขัดเงินที่มีคราบสกปรก

• กระเป๋าหนังที่ขาดความเงางาม

หากกางเกงขาดเป็นช่องโหว่ นักเรียนจะซ่อมแซมด้วยวิธีใด

• การปะ

• การเนา

• การสอย

• การเย็บตะเข็บ

ข้อใดไม่ใช่วิธีการตกแต่งเสื้อผ้า

• นำเสื้อสีขาวมาปักเป็นลายดอกไม้หลากสีสัน

• นำผ้าเฉลียงมาเย็บมุมกระเป๋า เพื่อให้เกิดลวดลาย

• นำเศษผ้ามาตัดเย็บเป็นสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน

• นำผ้าหรือวัสดุอื่นมาเย็บให้มีลวดลายบนกระเป๋ากางเกง

บุคคลใดควรดัดแปลงเสื้อผ้าของตนเอง

• นุ่นสอยชายกระโปรงที่หลุดลุ่ย

• จุ๋มนำลูกปัดมาเย็บตกแต่งที่ปกเสื้อ

• นพใส่เสื้อที่พอดีมากเกินไป จึงทำให้รู้สึกอึดอัด

• มดตัดเย็บผ้ากันเปื้อนใหม่ เพราะผืนเก่าสีเริ่มซีดแล้ว

ผู้ที่จะปฏิบัติการตัดเย็บได้จะต้องมีพื้นฐานในเรื่องใดก่อน

• มีงบประมาณเพียงพอมี

• มีความรู้เรื่องการตัดเย็บขั้นพื้นฐาน

• กำหนดระยะเวลาที่ใช้ในการตัดเย็บ

• มีอุปกรณ์ที่เพียงพอหรือครบถ้วนหรือไม่

หากต้องการตัดเย็บกล่องใส่กระดาษทิชชู สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติคือข้อใด

• สร้างแบบ

• วางแบบตัด

• เลือกชนิดของผ้า

• วัดขนาดของตัวกล่อง