IS มาจากรากศัพท์ใด

• Independent Studying

• Independent Study

• Identify Studying

• Identify Study

“การศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆโดยศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร จากการสำรวจ การสังเกต การทดลอง ฯลฯแล้วนำมารวบรวมวิเคราะห์ เรียบเรียงขึ้นใหม่ ตามโครงเรื่องที่ได้วางไว้โดยมีหลักฐานและเอกสารอ้างอิงประกอบ” จัดเป็นการเขียนรายงานรูปแบบใด

• รายงานการสำรวจ

• รายงานเชิงวิชาการ

• รายงานสื่อสิ่งพิมพ์

• รายงานทางวิทยาศาสตร์

“รายการเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ที่ผู้ศึกษาผลงานทางวิชาการใช้อ้างอิงในเอกสารผลงาน ของตน” มีความหมายตรงกับข้อใด

• วัตถุประสงค์

• แผนการปฏิบัติงาน

• บรรณานุกรม

• นิยามศัพท์

ข้อใด ไม่ใช่ ความสำคัญของรายงานทางวิชาการที่มีต่อผู้ศึกษา

• ส่งเสริมการแสดงความคิดเห็นเชิงลบให้กับผู้ที่ศึกษา

• ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ศึกษารู้จักวิธีการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง

• ส่งเสริมทักษะด้านการอ่าน และสามารถจับใจความของเรื่องที่อ่านได้

• ส่งเสริมทักษะทางด้านการเขียน สามารถสื่อความหมายโดยการเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อใดจัดเป็นลักษณะของรายงานที่ดี

• มีการแสดงความคิดข้อเท็จจริงเชิงลบ

• การเขียนรายงานจะต้องมีความซับซ้อน เข้าใจยาก

• ความสมบูรณ์และความถูกต้องของเนื้อหาสาระตามที่กำหนด

• มีการนำหลักการหรือทฤษฎีมาใช้ไม่ตรงกับเรื่องที่ศึกษาค้นคว้า

การใช้ภาษาในการเขียนรายงานอย่างเป็นอย่างไร

• ใช้ประโยคสั้นๆ ให้ได้ใจความชัดเจน สมบูรณ์ ตรงไปตรงมาไม่วกวน

• ใช้ภาษาหรือสำนวนโวหารเป็นของตนเองที่เฉพาะที่ตนเองเข้าใจ

• ใช้ภาษาที่เป็นภาษาพูด คำผวน คำแสลง อักษรย่อ คำย่อ

• ใช้คำที่มีการเล่นสำนวน ซับซ้อน

การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าองค์ความรู้เชิงวิชาการ ได้กำหนดความยาวของข้อความไว้กี่คำเป็นอย่างต่ำ

• 1,500 คำ

• 2,000 คำ

• 2,500 คำ

• 3,000 คำ

ขั้นตอนใดเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอันดับแรกในการวิจัย

• การทบทวนวรรณกรรม

• การกำหนดปัญหาการวิจัย

• การตั้งสมมติฐาน

• การออกแบบการวิจัย

ข้อใดกล่าวถึงการเขียนส่วนประกอบของ “บทนำ”

• ประชากร กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือ

• ความสำคัญของปัญหา ขอบเขต วัตถุประสงค์

• สรุป อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ

• คน สัตว์ สิ่งของ

เอกสารที่เกี่ยวข้องหรือวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องจัดอยู่ในบทใด

• บทที่ 1

• บทที่ 2

• บทที่ 3

• บทที่ 4