สมัยอาณาจักรน่านเจ้า มีนิยายการเล่นต่างๆ ของจีนตอนใต้ ซึ่งมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ชื่อเหมือนกับนิยายของไทย คือเรื่องใด

• สังค์ทอง

• นามาโนห์รา

• แก้วหน้าม้า

• สามก๊ก

ข้อใดคือการละเล่นของไทยในสมัยน่านเจ้า

• ระบำจักรสาน

• ระบำหมวก

• ระบำพัด

• ระบำปั้นหม้อ

“ เมื่อจักเข้าเวียงเรียงกัน แต่อรัญญิกพู้นท่านหัวลาน ดํบงคํกลอยด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื้อย เสียงขับ ใครจักมักเหล้น เหล้น ใครจักมัก หัว หัว ใครจักมักเลื้อน เลื้อน” คือหลักฐานของการละเล่นในยุคสมัยใด

• น่านเจ้า

• สุโขทัย

• กรุงศรีอยุธยา

• กรุงธนบุรี

ละครรำสมัยกรุงศรีอยุธยามีต้นกำเนิดจากสิ่งใด

• การเล่นโนราห์เล่นน้ำ

• ละครใน

• การเล่นโนราห์ และละครชาตรี

• ชักชาคดึกดำบรรพ

สมัยกรุงศรีอยุธยาปรากฎการแสดงรูปแบบใดบ้าง

• ละครใน ละครนอก ละครชาตรี

• ละครเสภา ละครดึกดำบรรพ์ ละครพันทาง

• ละครร้อง ละครพูด ละครสังคีต

• ละครรำ ละครที่ไม่ใช่ละครรำ

ละครเขมรของหลวงพิพิธวาที เข้ามาแสดงในสมัยใด

• กรุงธนบุรี

• กรุงศรีอยุธยา

• สุโขทัย

• กรุงรัตนโกสินทร์

รามเกียรติ์ ตอน ปล่อยม้าอุปการ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในสมัยใด

• กรุงธนบุรี

• รัชการที่ 2

• รัชการที่ 5

• กรุงศรีอยุธยา

การรวบรวมตำราฟ้อนรำ เกิดขึ้นในสมัยใด

• พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

• พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

• พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สมัยที่วรรณคดีเจริญรุ่งเรืองเป็นยุคทองแห่งศิลปะการละคร คือยุคสมัยใด

• พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

• พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

• พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ยุคสมัยใดการละครแบบตะวันตกหลั่งไหลเข้าสู้วงการนาฏศิลปะ ทำให้เกิดบทละครประเภทต่างๆขึ้นมากมาย

• พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

• พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

• พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

• พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว