สุขเกษมเปรมหน้าเหลือบ ลืมหลัง

แสนสนุกปลุกใจหวัง วิ้งหรี้

เดินร่ายผายผันยัง ชายป่า

หัวร่อรื้นชื่นชี้ ส่องนิวชวนแล

๑. ข้อควรสังเกตของคำประพันธ์ข้างต้นคือข้อใด

• มีคำเลียนเสียงธรรมชาติ สร้างความไพเราะ

• สร้างจินตภาพให้กับผู้อื่น

• มีการใช้คำที่ดัดแปลงรูปให้ตรงกับฉันทลักษณ์

• ใช้โวหารเปรียบเทียบที่คมคาย

ดูงูขู่ฝูดฝู้ พรูพรู

หนูสู่รูงูงู สุดสู้

งูสู้หนูหนูสู้ งูอยู่

หนูรู้งูงูรู้ รูปถู้มูทู

๒. ข้อใดอาจเป็นจุดอ่อนของคำประพันธ์บทนี้

• ๑. กลวิธีทางวรรณศิลป์

• ๒. จินตภาพ

• ๓. เนื้อความ

• ๔. การใช้ภาษา

๓. ข้อใดสามารถอธิบายลักษณะของสัตว์ได้ดีที่สุด

• ๑. หัวลิงหมากลางลิง ต้นลางลิงแลหูลิง

  ลิงไต่กระไดลิง ลิงโลดคว้าประสาลลิง

• ๒. ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาติดาษนานา

  หวั่นว่ายกินไคลคลา ตามกันมาให้เห็นตัว

• ๓. นกแก้วแจ้วเสียงใส คลลอไคล้คู่หมู่สาลิกา

  นกตั้วผัวเมียคลา ฝ่าแขกเต้าเหล่าโนรี

• ๔. ไก่ฟ้าอ้าสดแสง หัวสุกแดงแทงเดือยแนม

  ปีกหางต่างสีแกม สีแต้มต่างอย่างวาดเขียน

๔. ข้อใดต่อไปนี้ไม่เข้าพวก

• นกแก้วแจ้วรี่ร้อง เร่หา

• ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า ปากแหลม

• กระจายสยายคลี่ซร้อง นงพงา

• กระจงกระจิดหน้า เอ็นดู

๕. ข้อใดคือคุณค่าของกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงที่เด่นชัดที่สุด

• ๑. การให้ความรู้ด้านธรรมชาติวิทยา

• ๒. อลลังการของภาษา

• ๓. สืบค่าด้านประวัติศาสตร์

• ๔. ขนบการประพาสของกษัตริย์

๖. คำว่าพันขนดเครียด หมายความว่าอย่างไร

• ๑. พันให้แน่น

• ๒. พันหลายๆชั้น

• ๓. รัดให้แน่นเข้า

• ๔. รัดให้เรียบร้อย

๗. ข้อใดไม่มีสัมผัสพยัญชนะ

• ๑. หัวลิง หมากลางลิง ต้นลางลิง แลลหูลิง

• ๒. แต่ค่าไม้ใหญ่น้อย แกว่งเยื้องไปมา

• ๓. หนวดพรายเพราเขาแปล้ปลาย

• ๔. คลลอไคล้ คู่หมู่สาลิกา

๘. ข้อใดไม่มีคำโทโทษ

• ๑. รูปถู้มูทู

• ๒. ดูงูขู่ฝูดฝู้

• ๓. รำเลล่นเต้นงามหง้า

• ๔. งูสุดสู้หนูสู้งู

๙. ข้อใดมีคำเอกโทษ

• ๑. เดินร่อยเรี่ยงามตรู

• ๒.ไก่ฟ้าหน้าก่ำกล้า

• ๓. มีเคี่ยวขาวน้อยช้อย

• ๔. ยูงทองย่องเยื้องย่าง

๑๐. หง้า เป็นรูปโทโทษ ของคำ อะไร

• ๑. หงา

• ๒. งา

• ๓. หง่า

• ๔. ง่า