1.กาลสมุฏฐาน 3 ช่วงเวลา 10.10-13.40 น. เป็นช่วงสมุฏฐานธาตุใด

• ลม

• ไฟ

• ดิน

• น้ำ

2. คนเกิดวันศุกร์ มีธาตุเจ้าเรือนประจำวันเกิด คือ สมุฏฐานธาตุใด ?

• ไฟ

• ลม

• ดิน

• น้ำ

3. ปัจฉิมวัย หรือ บุคคลที่มีอายุ>32 ปีเป็นต้นไป มักเจ็บป่วยด้วยสมุฏฐานธาตุใดเป็นหลัก

• อาโป

• วาโย

• ปฐวี

• เตโช

4. ผู้ป่วยที่เกิดหรือภูมิลำเนาในประเทศน้ำฝน เปือกตม เรียกประเทศเย็น มักเจ็บป่วยสมุฏฐานธาตุใดเป็นหลัก?

• อาโป

• วาโย

• ปถวี

• เตโช

5. รสยาใด ไม่ได้ จัดอยู่ในกลุ่มยา 9 รส

• รสฝาด

• รสเผ็ดร้อน

• รสเค็ม

• รสสุขุม

6. ตามตำราแพทย์แผนไทยจะจัดแบ่งยาตำรับตามรส ซึ่ง เรียกว่า “รสประธาน” มีอยู่ 3 รส คือ

• ยารสเปรี้ยว

  ยารสหวาน

  ยารสหอม

• ยารสเย็น

  ยารสร้อน

  ยารสสุขม

• ยารสเย็น

  ยารสร้อน

  ยารสเค็ม

• ยารสฝาด

  ยารสเปรี้ยว

  ยารสเผ็ดร้อน

7. สมุฏฐานเบญจอินทรีย์ ใดที่เรียกการเกิดโรคในกลุ่มโรคที่เกิดที่ลิ้น การรับรส

• ฆานโรโค

• ชิวหาโรโค

• จักขุโรโค

• โสตโรโค

8. การตรวจชีพจรตามหลักแพทย์แผนไทย ตามระบบตรีธาตุ นิ้วที่ 2 ที่จับแล้วมีชีพจรกระทบนิ้ว หมายถึงสมุฏฐานตรีธาตุใด

• วาตะ

• ปิตตะ

• เสมหะ

• ปถวี

9. วสันตฤดู แรม 1 คํ่า เดือน 8 ถึง ขึ้น 15 คํ่า เดือน 12 คือต้องระวังสมุฏฐานใดในการเกิดโรค

• วาโย

• อาโป

• เตโช

• ปถวี

10. หากผู้ป่วยมาพบแพทย์แผนไทย ด้วยอาการสำคัญ ด้วยอาการจุกแน่นท้อง ควรเลือกใช้รสยาใดเป็นรสยาหลักในการรักษาผู้ป่วย

• เผ็ดร้อน สุขุมร้อนเพราะช่วยกระจายวาตะ บำรุงปิตตะ

• รสหวานและรสเปรี้ยว เพื่อช่วยสมานแผลและบำรุงธาตุน้ำ

• รสเค็มและรสจืด เพื่อขับน้ำ บำรุงธาตุดิน

• รสเปรี้ยว รสฝาดเพื่อขับเสมหะ ลดกรด สมานแผล