ไฟฟ้าทำอันตรายแก่ร่างกายมนุษย์ได้อย่างไร

• เมื่อร่างกายสัมผัสกับจุดกระแสไฟฟ้ารั่ว     

• เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายลงดิน           

• เมื่อเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงสู้พื้นดิน

• เมื่อเดินผ่านบริเวณกระแสไฟฟ้ารั่วไหล

ข้อใดไม่ใช่เหตุการณ์ที่ทำให้ไฟฟ้าทำอันตรายต่อร่างกายและชีวิต

• กระแสไฟฟ้าใช้ร่างกายเป็นทางผ่านลงดิน

• ร่างกายเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า

• กระแสไฟฟ้ารั่วลงร่างกายขณะยืนบนฉนวนพื้นยางไม่ลงสู่ดิน

• กระแสไฟฟ้าลัดวงจรผ่านร่างกาย

ข้อใดไม่ใช่วิธีการป้องกันอุบัติภัยจากกระแสไฟฟ้า

• ใช้ตำนำป้องกันการสัมผัส

• ใช้การต่อลงดิน

• ใช้เครื่องตัดไฟฟ้ารั่ว

• ใช้สายไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน

ข้อใดเป็นข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยขณะติดตั้งไฟฟ้า

• การติดตั้งไฟฟ้าต้องทำงานร่วมกันอย่างน้อย 2 คน

• ใช้สายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกไว้ก่อน

• ตรวจสอบเซอร์กิตเบรกเกอร์ก่อนทำงานหรือไม่ก็ได้

• ช่างไฟฟ้ารู้เรื่องไฟฟ้าดีแล้วจึงไม่จำเป็นต้องตัดไฟก่อน

ข้อใดไม่ใช่ข้อปฏิบัติทางไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

• ใช้เต้ารับที่มีขั้วสายดินที่ต่อกับระบบดิน

• ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าตามมาตรฐาน มอก.

• ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกระแสรั่วโดยไม่ซ่อม

• ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่เปียกน้ำ

ข้อใดไม่ใช่หลักป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

• หลักการออกแบบ

• การควบคุมปริมารแสงอาทิตย์

• อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล

• การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงเป็นโลหะ  ควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อความปลอดภัย

• ต่อสายไฟเข้ากับสายนิวตรอน

• ต่อสายไฟฟ้าเข้ากับแท่งกราวด์ลงดิน

• ต่อสายไฟเข้ากับโครงโลหะ

• ต่อโครงโลหะเข้ากับแท่งกราวด์ลงดิน

ขั้นตอนแรกในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากไฟฟ้าดูดคือข้อใด

• นวดไหล่ทั้งสองข้าง             

• นวดหัวใจ

• เป่าลมเข้าทางปาก

• ตรวจชีพจร

ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

• มือเท้าเปียกไม่ควรแตะต้องอุปกรณ์ไฟฟ้า

• ก่อนซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าควรตัดกระแสไฟฟ้า

• หากพบผู้ถูกกระแสไฟฟ้าดูดให้รีบดึงตัวออกมา 

• ไม่ควรถอดรองเท้าเมื่อทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า

ป้ายแจ้งเตือนในงานไฟฟ้ามีไว้เพื่ออะไร

• เพื่อความสวยงาม           

• เพื่อให้ความรู้

• เพื่อบอกให้ทราบ

• เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานระมัดระวัง