การพยาบาลผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง

1.ค่าความดันโลหิตของผู้สูงอายุที่ 169/110 มม.ปรอท เป็นความดันโลหิตระดับความรุนแรงในข้อใด

• ความดันโลหิตสูงปกติ

• ความดันโลหิตสูงระดับ 1

• ความดันโลหิตสูงระดับ 2

• ความดันโลหิตสูงระดับ 3

2. ความดันโลหิตสูงที่มีค่า DBP110 มม.ปรอท ตลอดเวลา เป็นความดันโลหิตสูงชนิดใด

• Isolated systolic hypertension (ISH)

• Isolated office hypertension (IOH)

• Masked hypertension

• Malignant hypertension

3. ข้อใดคือสาเหตุที่แก้ไขได้ของโรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ

• การเปลี่ยนแปลงของผนังหลอดเลือดแดง

• ความไวของบาโรรีเซฟเตอร์ในหลอดเลือด

• ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน

• อายุที่เพิ่มมากขึ้น

4. ข้อใดเป็นอาการและอาการแสดงของโรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ

• ปวดศีรษะ

• เจ็บหน้าอก

• ปวดบริเวณขา

• คิดได้ช้า

5. ข้อใดเป็นผลกระทบของโรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุต่อระบบหัวใจ

• หัวใจวาย

• หน้าแดง ใจสั่น

• ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง

• หัวใจเต้นผิดจังหวะ

6. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับอาหารที่ควรแนะนำให้ผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงรับประทาน

• ไขมันสูง โปรตีนสูง

• ไขมันต่ำ โซเดียมสูง

• แมกนีเซียม โพแทสเซียมต่ำ

• แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียมสูง

7. ข้อใดเป็นผลข้างเคียงของยาต้านแคลเซียม (CCBs)

• ปัสสาวะออกมาก อ่อนเพลีย

• โพแทสเซียมในเลือดต่ำ

• ปวดศีรษะ หน้าแดงและใจสั่น

• ท้องเสีย

8. ข้อใดเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง

• การเดินเร็ว

• การยกน้ำหนัก

• การลุกนั่ง

• ชักกะเย่อ

9. ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องในการป้องกันความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ

• บริโภคอาหารให้มากเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

• งดรับประทานยา เมื่อความดันโลหิตปกติ

• ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักตัว

• ดื่มสุราได้ไม่เกิน 60 ซีซีต่อวัน

10. ข้อใดเป็นบทบาทสำคัญของพยาบาลก่อนการจำหน่ายผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงออกจากโรงพยาบาล

• การมาให้ตรงตามวันนัด

• การจัดการกับความเครียด

• การรับประทานอาหาร

• การแนะนำสังเกตอาการและประเมินความผิดปกติ