ข้อใดถูกตามทฤษฎีจลน์

• ทุกครั้งที่สารตั้งต้นชนกันในทิศทางที่เหมาะสม จะเกิดสารผลิตภัณฑ์

• การสลายตัวของสารเชิงซ้อนกัมมันต์อาจได้สารตั้งต้นหรือสารผลิตภัณฑ์

• สารเชิงซ้อนกัมมันต์ที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิกิริยามีพลังงานต่ำกว่าสารตั้งต้นและสารผลิตภัณฑ์

• การเกิดสารเชิงซ้อนกัมมันต์ปฏิกิริยาจะคายพลังงานออกมาซึ่งเรียกพลังงานนี้ว่าพลังงานก่อกัมมันต์

เมื่อนำชิ้นสังกะสีใส่ในสารละลายกรดไฮโดรคลอริก วิธีทำให้ปฏิกิริยาเกิดเร็วขึ้นโดยไม่เพิ่มปริมาณสังกะสีและกรดต่อไปนี้

ก. ใช้แท่งแก้วคนให้ทั่ว

ข. ใช้ผงสังกะสีน้ำหนักเท่ากันแทนชิ้นสังกะสี

ค. ให้ความร้อน

ง. เติมน้ำกลั่นลงไปเท่าตัว ข้อใดถูก

ข้อใดถูกต้อง

• ก., ข. และ ค. เท่านั้น

• ข., ค. และ ง. เท่านั้น

• ก., ค. และ ง. เท่านั้น

• ก., ข., ค. และ ง.

ข้อใดถูกตามทฤษฎีจลน์

• ทุกครั้งที่สารตั้งต้นชนกันในทิศทางที่เหมาะสม จะเกิดสารผลิตภัณฑ์

• การสลายตัวของสารเชิงซ้อนกัมมันต์อาจได้สารตั้งต้นหรือสารผลิตภัณฑ์

• สารเชิงซ้อนกัมมันต์ที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิกิริยามีพลังงานต่ำกว่าสารตั้งต้นและสารผลิตภัณฑ์

• การเกิดสารเชิงซ้อนกัมมันต์ปฏิกิริยาจะคายพลังงานออกมาซึ่งเรียกพลังงานนี้ว่าพลังงานก่อกัมมันต์

การกระทำในข้อใดไม่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

• การนำเนื้อหมูแช่ในช่องแช่แข็ง

• ใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ช่วยในการบ่มมะม่วง

• การเคี้ยวยาลดกรดชนิดเม็ดให้ละเอียดก่อนกลืน

• การเปลี่ยนขนาดภาชนะที่บรรจุสารละลายที่ทำปฏิกิริยา

เมื่อนำชิ้นสังกะสีใส่ในสารละลายกรดไฮโดรคลอริก วิธีทำให้ปฏิกิริยาเกิดเร็วขึ้นโดยไม่เพิ่มปริมาณสังกะสีและกรดต่อไปนี้

ก. ใช้แท่งแก้วคนให้ทั่ว

ข. ใช้ผงสังกะสีน้ำหนักเท่ากันแทนชิ้นสังกะสี

ค. ให้ความร้อน

ง. เติมน้ำกลั่นลงไปเท่าตัว ข้อใดถูก

ข้อใดถูกต้อง

• ก., ข. และ ค. เท่านั้น

• ข., ค. และ ง. เท่านั้น

• ก., ค. และ ง. เท่านั้น

• ก., ข., ค. และ ง.

การกระทำในข้อใดไม่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี

• การนำเนื้อหมูแช่ในช่องแช่แข็ง

• ใช้แคลเซียมคาร์ไบด์ช่วยในการบ่มมะม่วง

• การเคี้ยวยาลดกรดชนิดเม็ดให้ละเอียดก่อนกลืน

• การเปลี่ยนขนาดภาชนะที่บรรจุสารละลายที่ทำปฏิกิริยา

ข้อความต่อไปนี้ข้อใดไม่ถูกต้อง

• คะตะไลต์(ตัวเร่งปฏิกิริยา) เมื่อใส่ลงไปในปฏิกิริยาทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีเร็วขึ้น

• เมื่อเพิ่มความเข้มข้นของสารตั้งต้นทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น

• เมื่อเกิดปฏิกิริยาคะตะไลต์อาจมีส่วนร่วมในการทำปฏิกิริยา

• เมื่อพลังงานกระตุ้นสูงจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น

การเพิ่มอุณหภูมิมีผลทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น เพราะเหตุใด

1. ทำให้อนุภาคของสารตั้งต้นชนกันบ่อยครั้งขึ้น

2.ทำให้พลังงานก่อกัมมันต์ของสารตั้งต้นลดลง

3. ทำให้อนุภาคที่มีพลังงานสูงเพิ่มขึ้น

• 1 เท่านั้น

• 3 เท่านั้น

• 1 และ 2

• 1 และ 3

ข้อใดเป็นข้อความที่ไม่ถูกต้อง

• ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีสารตั้งต้นต้องชนกันถูกทิศทาง

• โมเลกุลที่มาชนกันแล้วเกิดปฏิกิริยา คือโมเลกุลที่มีพลังงานต่ำๆ

• ปฏิกิริยาที่มี Ea ต่ำจะมีอัตราการเกิดปฏิกิริยาสูงกว่าปฏิกิริยาที่มี Ea สูง

• Ea เป็นค่าเฉพาะของปฏิกิริยาหนึ่งๆ

ข้อสรุปใดต่อไปนี้ผิด

• ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลังงานก่อกัมมันต์เพิ่มขึ้น

• เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น

• โมเลกุลชนกันทุกครั้งต้องเกิดปฏิกิริยา หากมีพลังงานก่อกัมมันต์เพียงพอ

• ถ้าพลังงานของสารตั้งต้นมากกว่าสารผลิตภัณฑ์ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจะเป็นปฏิกิริยาคายความร้อน