ข้อใดคือความหมายของการอ่านจับใจความ

• อ่านเพื่อความรู้

• อ่านเพื่อบันเทิง

• อ่านเพื่อหาสาระสำคัญของเรื่อง

• อ่านเพื่อค้นหาแนวทางในการดำเนินชีวิต

ใจความรองมีความหมายตรงตามข้อใด

• ใจความที่เป็นหลักของย่อหน้า

• ใจความที่เป็นแก่นของเรื่องทั้งหมด

• เป็นใจความที่มีหนึ่งเดียวในย่อหน้า

• เป็นใจความที่สนับสนุนใจความหลักของย่อหน้า

การอ่านจับใจความสำคัญ  ผู้อ่านต้องปฏิบัติอย่างไร

• แยกใจความสำคัญจากส่วนขยายใจความสำคัญ

• แยกเรื่องออกเป็นตอนๆ

• แยกประเด็นของเรื่องว่าส่วนใดเป็นข้อมูลประกอบ

• อ่านให้รวดเร็วอย่างสม่ำเสมอ

ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการอ่านจับใจความสำคัญ

• อ่านซ้ำ

• อ่านผ่านๆ

• อ่านทบทวน

• อ่านให้ละเอียด

ใจความสำคัญมีลักษณะอย่างไร

• เป็นคำ

• เป็นวลี

• เป็นอนุเฉท

• เป็นประโยค

ข้อใดเป็นการเขียนวิธีสรุปใจความสำคัญที่ถูกต้อง

• ใคร ทำอะไร เมื่อไร อย่างไร ผลเป็นอย่างไร สรุปใจความสำคัญ

• ใคร  ทำอะไร เมื่อไร  ผลเป็นอย่างไร สรุปใจความสำคัญ

• ใคร  ทำอะไร เมื่อไร  อย่างไร สรุปใจความสำคัญ

• ใคร  ทำอะไร อย่างไร ผลเป็นอย่างไร สรุปใจความสำคัญ

การที่เราจะจับใจความสำคัญอย่างง่ายที่สุดต้องทำอย่างไร

• พยายามแยกย่อหน้าออกจากกัน

• ตั้งคำถามและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน

• พยายามหาว่าส่วนใดเป็นส่วนขยายใจความสำคัญ

• พิจารณาองค์ประกอบของเรื่องในคราวเดียวกัน

ข้อใดไม่ใช่หลักในการอ่านจับใจความสำคัญ

• อ่านทุกตัวอักษร

• คิดถึงจุดมุ่งหมายขณะทำงาน

• ไม่อ่านซ้ำหลาย ๆ รอบ

• ไม่ควรพะวงกับเรื่องการใช้ภาษาหรือเรื่องราวอื่น ๆ

ข้อใดถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการอ่านจับใจความ

• อ่านผ่าน ๆ โดยตลอดเพื่อให้รู้เรื่อง

• อ่านให้ละเอียดเพื่อทำความเข้าใจ

• เรียบเรียงใจความสำคัญของเรื่อง

• อ่านซ้ำตอนที่ไม่เข้าใจ

บุคคลในข้อใดไม่ใช้หลักในการอ่านจับใจความสำคัญ

• เจ๋งยืมหนังสือจากห้องสมุดมาทำรายงานโดยยังไม่มีหัวข้อในการทำงาน

• คิมอ่านเรื่องพระอภัยมณีจบแล้วจึงเขียนสรุปความสำคัญของเรื่องเป็นสำนวนของตนเอง

• หลังจากต้มอ่านเรื่องเห็นแก่ลูกจบ เขาก็ตั้งคำถามกับตนเองว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร

• จ่อยอ่านเรื่องเที่ยวท่าเรือแล้วหาใจความสำคัญแต่ละย่อหน้าทุกครั้ง