1.      การคิดแยกแยะหมายถึงข้อใด

• ก.      การแยกแยะสิ่งถูกจากผิด ดีจากเลว

• ข.      การคิดหลักความจริงที่เป็นแนวทาง
  แห่งความประพฤติปฏิ

• ค.      การปลูกฝังให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาจิตสำนึกและยึดถือปฏิ

• ง.       ความสามารถในการพิจารณาและ
  คิดวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบ
  ในเรื่องราวต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล

2.     ข้อใดเป็นผลประโยชน์ส่วนรวม

• ก.      ส่วนลด

• ข.      ของขวัญ

• ค.      สัมปทาน

• ง.       แหล่งเรียนรู้ชุมชน

3.      ข้อใดกล่าวถึงผลประโยชน์ส่วนตนได้ถูกต้อง

• ก.      ผลประโยชน์ของชุมชนโดยรวม     

• ข.      ผลประโยชน์ของบุคคลหรือกลุ่มชน

• ค.      ผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับเงินและไม่เกี่ยวกับเงิน

• ง.       ผลประโยชน์ด้านการงานหรือธุรกิจของเจ้าหนี้

4.      สมชายร่วมพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ในชุมชน
ของตนเอง การกระทำของสมชายเป็น
การบำเพ็ญประโยชน์ด้านใด

• ก.      เพื่อองค์กร

• ข.      เพื่อส่วนตน

• ค.      เพื่อส่วนรวม

• ง.       เพื่อหน่วยงาน

5.      “คิดเป็น” หมายถึงข้อใด

• ก.      เป็นการกระทำถ้าหากสามารถทำให้ปัญหาหายไป

• ข.      เป็นการใช้ทักษะการคิดในทุกรูปแบบและเป็นการคิดในเชิงลบ

• ค.      เป็นการคิดเพื่อแก้ปัญหาคือมีจุดเริ่มต้น
  ที่ปัญหาแล้วพิจารณาย้อนไตร่ตรองถึงข้อมูล 3 ด้าน

• ง.       เป็นการคิดในทางที่หวังผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นสำคัญที่ทำให้คนอยู่ในสังคมอยู่อย่างราบรื่น

6.      ลักษณะของคนคิดเป็น คือข้อใด

• ก.      รู้ว่าการกระทำของตนเองมีผลดีและถูกต้องเสมอ

• ข.      ทำแล้วตัดสินใจแล้วสบายใจและเต็มใจรับผิดชอบ

• ค.      การตัดสินใจแก้ปัญหาโดยใช้ข้อมูลของตนเองเท่านั้น

• ง.       มีความเชื่อว่าปัญหาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
  และต้องแก้ไขอย่างไม่สิ้นสุด

7.      ข้อใดคือผลประโยชน์ทับซ้อน

• ก.      ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม

• ข.      ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง

• ค.      ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและหน่วยงาน

• ง.       ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและญาติพี่น้อง

8.      ผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้นกับบุคคลใดมากที่สุด

• ก.      เจ้าหน้าที่ของรัฐ

• ข.      พนักงานบริษัท

• ค.      พ่อค้าคนกลาง

• ง.       เกษตรกรชาวไร่ ชาวสวน

9.      ข้อใดไม่ใช่พฤติกรรมผลประโยชน์ทับซ้อน

• ก.      การนำทรัพย์สินของหน่วยงานมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว

• ข.      การใช้อำนาจหน้าที่ช่วยญาติหรือบุคคลอื่นให้เข้าทำงาน

• ค.      การนำบุคลากรของหน่วยงานมาใช้
  เพื่อประโยชน์ส่วนตน

• ง.       การประชาสัมพันธ์หน่วยงานเพื่อบริการประชาชนอย่างทั่วถึง

10.      ความละอายมีความหมายตรงกับข้อใด

• ก.      การรู้สึกอายในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร

• ข.      การรู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่ผู้อื่นกระทำ

• ค.      ความกล้าหาญในสิ่งที่กระทำไม่ถูกต้อง

• ง.       ความไม่อดทนต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่