ส่วนของรากที่เป็นอุปสรรคที่สุดต่อการลำเลียงน้ำ คือ

• เอพิเดอร์มิส

• คอร์เทกซ์

• เอนโดเดอร์มิส

• เพริไซเคิล

พืชลำเลียงเกลือแร่จากรากไปใบได้เร็วที่สุดโดยอาศัย

• แรงดันราก

• คอร์เทกซ์

• แรงดึงจากการคายน้ำ

• แอกทีทรานสปอร์ต

การสูญเสียน้ำในรูปของหยดน้ำที่เรียกว่า กัตเตชัน จะเกิดขึ้นในขณะที่

• มีแสงแดดจัด

• ลมพัดตลอดเวลา

• ภายหลังฝนตกไม่นาน

• ไม่มีฝนตกมาเป็นเวลานาน

ขนรากเกิดจาก______แต่รากแขนงเกิดจาก______

• เพอริไซเคิล........พิธ

• เอพิเดอร์มิส........เพอริไซเคิล

• เอพิเดอร์มิส........คอร์เทกซ์

• คอร์เทกซ์........เอพิเดอร์มิส

ข้อใดอธิบายการส่งผ่านน้ำจากดินเข้าสู่รากและเซลล์ต่างๆ ในรากได้ดีที่สุด

• เซลล์ขนรากเกิดแรงเต่ง ดันให้น้ำเข้าเซลล์ข้างเคียงถัดไป

• แวคคิวโอลภายในเซลล์ขนรากดูดน้ำไว้ แล้วแตกออกปล่อยให้น้ำผ่านผนังเซลล์ไปยังเซลล์ข้างเคียงถัดไป

• น้ำผ่านเข้าในรากโดยอาศัยกระบวนการออสโมซิส และความแตกต่างของความเข้มข้นของสารละลาย

          ภายในเซลล์ขนราก และเซลล์ข้างเคียงถัดไป

• ถูกทุกข้อ

อ่านข้อมูลแล้วตอบคำถาม

        A. เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย            B. เนื้อเยื่อเจริญเหนือข้อ

        C. คอร์กแคมเบียม                     D. วาสคิวลาร์แคมเบียม

   ข้อใดทำให้ลำต้นยืดยาวขึ้น

• ข้อ A  และ B

• ข้อ A และ C

• ข้อ B และ C

• ข้อ C และ D

อ่านข้อมูลและตอบคำถามต่อไปนี้

A. ภายในใบมี CO₂ สูง                B. ภายในใบมี abscisic acid สูง

           C. เซลล์คุมมีแรงดันเต่งเพิ่มขึ้น.     D. เซลล์คุมมีการเคลื่อนที่ของ K⁺ เข้าสู่เซลล์มากขึ้น

   ปัจจัยใดมีผลทําให้ปากใบเปิด 

• A และ B

• B และ C

• C และ D

• A และ D

ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของพืชบริเวณใดของใบที่มีการถ่ายเทความร้อนได้เป็นอย่างดี เพื่อลดอุณหภูมิของใบ

    ให้ต่ำลง

• Spongy mesophyll

• Root hair

• Lenticel

• Root hair

พืชสูญเสียน้ำไปโดยการคายน้ำสู่บรรยากาศในรูปการณ์คายน้ำผ่านทางใด

• ทางใบ ผิวใบ และเลนทิเซล

• ทางใบและทางผิวใบเล็กน้อย

• ทางใบและเลนทิเซลเล็กน้อย

• ปากใบและเลนทิเซลล 

ข้อใดกล่าวถึงปากใบได้ถูกต้อง

• เอพิเดอร์มิสด้านล่าง (lower epidermis) เซลล์ชั้นนี้มีคลอโรฟีลล์อยู่ด้วย

• ทางด้านล่างของใบมีปากใบอยู่มากกว่าทางด้านบน

• เมื่อมีแสงเกิดการคายน้ำ เซลล์คุมจะเหี่ยว ปากใบปิด

• พืชสูญเสียน้ำทางปากใบ 70 %