1. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้กำหนดข้อห้ามของละครเอกชนยกเว้นข้อใด

• ก. ห้ามเป่าแตรสังข์

• ข. ห้ามทำหัวช้างทุกชนิดเป็นสีเผือก

• ค. ห้ามใช้พานทองหีบทอง

• ง. ห้ามใช้เครื่องประดับลงยา

Answer explanation

ข. เพราะ ตามกฏแล้วห้ามทำหัวช้างเป็นสีเผือก ยกเว้นตัวละครช้างเอราวัณ

2. เครื่องดนตรีตะวันตกที่นำเข้ามาในเมืองไทยพร้อมกับการฝึกแถวทหารแบบตะวันตก มีชื่อไทยเรียกว่าอะไร

• ก. กลองมะริกัน

• ข. กลองเมริกัน

• ค.กลองมรากัน

• ง. กลองมะลีกัน

Answer explanation

ก. ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีการนำเข้าเครื่องดนตรี Bass drum จากตะวันตก หรือชื่อที่คนไทยเรียกกันว่า “กลองมะริกัน”

3. สาเหตุใดพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงต้องกำหนดข้อห้ามในการใช้ รัดเก้ายอด พานทองหีบทอง เป็นอุปกรณ์แสดงละครเอกชน

• ก. เพราะมีราคาแพง

• ข. เพราะทำมาจากวัสดุที่ดูแลได้ยาก

• ค. เพราะเป็นของของราชวงศ์

• ง. เพราะเป็นของใช้ของพระมหากษัตริย์

Answer explanation

ง. เพราะ รัดเกล้ายอด พานทองหีบทอง เครื่องประดับลงยา และแตรสังข์ล้วนเป็นของใช้ของพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น

ภายหลังมีการเพิ่มเครื่องดนตรีอีกสองชนิดในวงปี่พาทย์ คือระนาดทุ้มกับฆ้องวงเล็ก” คำพูดดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัชกาลใด

• ก. รัชกาลที่ 5

• ข. รัชกาลที่ 6

• ค. รัชกาลที่ 3

• ง. รัชกาลที่ 4

Answer explanation

ค. เนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการประดิษฐ์เครื่องดนตรีไทยขึ้นมา 2 ชนิด คือระนาดทุ้มและของวงเล็ก เมื่อนำไปเพิ่มในวงปี่พาทย์จึงได้เป็นเครื่องดนตรีที่เข้าคู่กัน

5. ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการผสมวงกลองแขกกับวงเครื่องสาย และภายหลังได้มีการตั้งชื่อใหม่ให้เป็น

• ก. วงเครื่องสายชวา

• ข. วงเครื่องสายปี่ชวา

• ค. วงเครื่องสายมลายู

• ง. วงเครื่องกลองปี่ชวา

Answer explanation

ข. การประสมวงศ์กลองแขกกับวงเครื่องสาย แต่เดิมถูกเรียกว่า วงกลองแขกเครื่องใหญ่ ภายหลังมีการเปลี่ยนชื่อให้เป็นวงเครื่องสายปี่ชวา

6. ข้อใดเรียงลำดับเหตุการณ์ในรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ตามลำดับ

• ก. เก็บภาษีมหรสพ -> ยกเลิกภาษีมหรสพ -> นำ แสง สี เสียงเข้ามาใช้ในการแสดง

• ข. เก็บภาษีมหรสพ -> นำ แสง สี เสียงเข้ามาใช้ในการแสดง -> ยกเลิกละครหลวง

• ค. ยกเลิกภาษีมหรสพ -> เก็บภาษีมหรสพ -> ยกเลิกละครหลวง

• ง. ยกเลิกละครหลวง -> เก็บภาษีมหรสพ -> นำ แสง สี เสียงเข้ามาใช้ในการแสดง

Answer explanation

ง. รัชกาลที่ 3 : ไม่นิยมในนาฏศิลป์ จึงยกเลิกการแสดงละครหลวง รัชกาลที่ 4 : มีการเก็บภาษีมหรสพและดึงละครหลวงกลับมา รัชกาลที่ 5 : ยกเลิกการเก็บภาษีมหรสพ ยุคที่รับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตกมาก จึงมีการนำแสงสีเสียงเข้ามาประกอบการแสดง