การหักเหเกิดขึ้นเมื่อใด

• แสงเดินทางผ่านตัวกลางตั้งแต่สองตัวกลางขึ้นไป และมีอัตราเร็วเท่ากัน

  
  

• แสงเดินทางผ่านตัวกลางตั้งแต่สองตัวกลางขึ้นไปที่มีอัตราเร็วต่างกัน

  
  

• แสงเดินทางผ่านตัวกลางชนิดเดียวกัน และมีอัตราเร็วเท่ากัน

  
  

การหักเหที่เกิดขึ้นทำให้มุมตกกระทบกับมุมสะท้อนเท่ากันหรือไม่

• เท่า

• ไม่เท่า

มุมหักเหอยู่ระหว่างข้อใดต่อไปนี้

• รังสีตกกระทบและรังสีสะท้อน

• รังสีตกกระทบและรังสีหักเห

• รังสีตกกระทบกับเส้นแนวฉาก

• รังสีหักเหกับเส้นแนวฉาก

ถ้าอัตราเร็วของแสงในตัวกลางที่ 1 ที่มีค่ามากกว่าอัตราเร็วของแสงในตัวกลางที่ 2 จะเกิดอะไรขึ้น

• รังสีหักเหจะเบนออกจากเส้นแนวฉาก

• รังสีหักเหจากเบนเข้าสู่เส้นแนวฉาก

• รังสีหักเหจะเบนออกจากเส้นปกติ

• รังสีหักเหจากเบนเข้าหาเส้นปกติ

ดัชนีหักเหมีผลต่ออัตราเร็วของแสงหรือไม่อย่างไร

• มีผลต่ออัตราเร็วของแสงโดยดัชนีหักเหมากอัตราเร็วมีค่าน้อย

• มีผลต่ออัตราเร็วแสงโดยดัชนีหักเหมากอัตราเร็วก็มีมีค่ามากด้วย

• ไม่มีผลต่ออัตราเร็วแสง

แก้วมีดัชนีหักเหมากกว่าอากาศ แสดงว่าแก้วมีอัตราเร็วเป็นอย่างไร

• แก้วมีอัตราเร็วมากกว่าอากาศ

• แก้วมีอัตราเร็วน้อยกว่าอากาศ

ในวันที่ฝนตก และมีแดดออก เหตุใดนักเรียนจึงมองเห็นรุ้งกินน้ำบนอากาศ ทั้งที่ในอากาศไม่มีปริซึม

• เพราะรุ้งกินน้ำอาศัยหลักการหักเหแสงจากดวงอาทิตย์ผ่านละอองน้ำฝน และอากาศ

• เพราะอากาศหนักขนาดนั้นมีอัตราเร็วไม่เท่ากัน

• เพราะรุ้งกินน้ำไม่ได้เกิดจากการหักเหแสง

• เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ห่างจากดาวโลกมากๆ ทำให้แสงเกิดการหักเหขึ้นเอง จึงเห็นเป็นรุ้งกินน้ำ

ปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำอาศัยหลักการในข้อใด

• หลักการกระจายแสง ซึ่งเกิดจากการหักเหแสง

• หลักการเลี่ยวเบนของแสง

• หลักการแทรกสอดของแสง

หากแสงเดินทางผ่านตัวกลางที่มีดัชนีหักเหมาก ไปดัชนีหักเหน้อย มุมหักเหจะเป็นอย่างไร

• มุมหักเหจะใหญ่กว่ามุมตกกระทบ

• มุมหักเหจะเล็กกว่ามุมตกกระทบ

• ดัชนีหักเหมีผลต่อมุมหักเห

ถ้าเปลี่ยนขนาดมุมตกกระทบมุมหักเหจะเปลี่ยนด้วยหรือไม่

• เปลี่ยน

• ไม่เปลี่ยน