การจัดการความรู้

1.       ความรู้ที่ถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรืออยู่ในรูปของเอกสาร เรียกว่าอะไร?

• a) ความรู้โดยนัย

  (Tacit Knowledg

• b) ความรู้ชัดแจ้ง

  (Explicit Knowledge)

• c) ความรู้ภายในองค์กร (Organizational Knowledge)

• d) ความรู้ภายนอกองค์กร (External Knowledge)

2.    เครื่องมือใดใช้ในการจัดการความรู้ในองค์กรได้ดีที่สุด?

• a) ระบบการจัดการเอกสาร (Document Management System)

• b) โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor)

• c) ระบบอีเมล (Email System)

• d) โปรแกรมการทำงานร่วมกัน (Collaboration Tool)

3.      ขั้นตอนแรกในกระบวนการจัดการความรู้คืออะไร?

• a) การรวบรวมความรู้

• b) การถ่ายโอนความรู้

• c) การสร้างความรู้

• d) การเก็บรักษาความรู้

4.      อะไรคือความแตกต่างหลักระหว่างความรู้โดยนัย (Tacit Knowledge) และความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge)?

• a) ความรู้โดยนัยยากที่จะบันทึกเป็นเอกสาร

• b) ความรู้ชัดแจ้งเป็นความรู้ที่ไม่สามารถแบ่งปันได้

• c) ความรู้โดยนัยสามารถเรียนรู้ได้จากการอ่านหนังสือ

• d) ความรู้ชัดแจ้งมักไม่ใช้ในการจัดการองค์กร

5.     เทคโนโลยีใดช่วยในการสร้างและจัดการความรู้ในองค์กร?

• a) AI และ Machine Learning

• b) เครื่องคิดเลข

• c) บัตรพนักงาน

• d) โทรศัพท์พื้นฐาน

6.       การแบ่งปันความรู้ภายในทีมมีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร?

• a) ลดการสื่อสารภายใน

• b) เพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรม

• c) ทำให้การทำงานล่าช้า

• d) ลดความเข้าใจร่วมกัน

7.       กระบวนการใดในการจัดการความรู้ที่เน้นการทำให้ความรู้จากบุคคลหนึ่งถ่ายทอดไปยังผู้อื่นได้ง่าย?

• a) การเก็บความรู้

• b) การถ่ายโอนความรู้

• c) การทำลายความรู้

• d) การป้องกันความรู้รั่วไหล

8.       อะไรคือปัญหาสำคัญในการจัดการความรู้โดยนัยในองค์กร?

• a) ความรู้โดยนัยมีราคาแพง

• b) ความรู้โดยนัยไม่สามารถบันทึกได้ง่าย

• c) ความรู้โดยนัยมีปริมาณมากเกินไป

• d) ความรู้โดยนัยต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

9.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นลักษณะขององค์กรที่มีการจัดการความรู้ที่ดี?

• a) ไม่มีการแบ่งปันความรู้ระหว่างพนักงาน

• b) ความรู้ถูกเก็บรักษาอย่างเป็นระบบ

• c) ความรู้มักจะสูญหายเมื่อพนักงานลาออก

• d) ไม่มีการสร้างความรู้ใหม่ในองค์กร

10.       การจัดการความรู้ช่วยองค์กรในด้านใดมากที่สุด?

• a) การจัดการทรัพยากรทางการเงิน

• b) การเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการตลาด

• c) การส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญ

• d) การลดภาระงาน