ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับภาษาเชิงฟังก์ชัน

• เป็น non-procedural programming language

• มีลักษณะคล้ายฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์

• ไม่ต้องระบุขั้นตอนการเปลี่ยนสถานะในหน่วยความจำ

• การเขียนโปรแกรมขึ้นกับฮาร์ดแวร์

ส่วนประกอบที่สำคัญของภาษาเชิงฟังก์ชัน

• ลิสต์ ฟังก์ชันพื้นฐาน กฏ

• ลิสต์ ฟังก์ชันพื้นฐาน โครงสร้างที่ใช้สร้างฟังก์ชัน

• ลิสต์ ฟังก์ชันพื้นฐาน ข้อเท็จจริง

• ฟังก์ชันพื้นฐาน โครงสร้างที่ใช้สร้างฟังก์ชัน ข้อเท็จจริง

ข้อใดจัดเป็นภาษาเชิงหน้าที่ภาษาแรก

• LISP

• Scheme

• Racket

• Haskell

ข้อใดเป็น syntax ของภาษาตระกูล Lisp

• (function_name arg1 arg2 ... argN)

• (function_name, arg1 , arg2, ... , argN)

• (lambda arg1 arg2 ... argN)

• (lambda, arg1, arg2, ... ,argN)

ผลลัพธ์ของคำสั่ง (* 5 (+ 4 3))

• 23

• 37

• 35

• 19

ฟังก์ชันใดในภาษา Racket ที่ใช้ในการสร้างนิพจน์แบบไม่ระบุตัวตน (anonymous function)?

• define

• lambda

• let

• map

f(x) = x * x เขียนเป็น lambda function ใน racket ตรงกับ

ข้อใด

• (lambda (* x x))

• lambda(x) = x * x

• (lambda (x) (x * x))

• (lambda (x) (* x x))

((lambda (x) (* x x)) 7)

ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคำสั่งนี้

• เป็นการเรียกใช้ฟังก์ชัน lambda

• มีค่าเหมือนกับ

  f(7) = x * x

• 7 เป็นค่าที่ถูกส่งเข้าไปให้ฟังก์ชัน lambda

• ผลลัพธ์มีค่า 49

• ถูกทุกข้อ

ข้อใดไม่ใช่รูปแบบการเขียนข้อมูลลิสต์ที่ถูกต้อง

• (1 2 3 4)

• '(1 2 3 4)

• (list 1 2 3 4)

• (quote (1 2 3 4))

ข้อใดเป็นการกำหนดค่าตัวแปร pi ที่ถูกต้อง

• (define (pi 3.14159))

• (define pi 3.14159)

• (define (= pi 3.14159) )

• (= pi 3.14159)