ข้อใดบอกความหมายของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์ได้ถูกต้อง

• ต้องมีที่ตั้ง+ความต้องการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ+ผู้ซื้อ+ผู้ขาย

• ไม่ต้องมีที่ตั้ง+ความต้องการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ+ผู้ซื้อ+ผู้ขาย

• ต้องมีที่ตั้ง+ผู้ซื้อ+ผู้ขาย+มีสินค้า

• ไม่ต้องมีที่ตั้ง+มีสินค้า+ผู้ซื้อ+ผู้ขาย

ข้อใดกล่าวผิด

• ตลาดขายส่ง= ทำการซื้อขายจำนวนมากระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

• ตลาดขายปลีก= ทำการซื้อขายจำนวนไม่มากระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

• ตลาดสด=ขายเฉพาะของสด

• ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าจัดเป็นตลาดขายปลีกสมัยใหม่

3.“ตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากและสินค้ามีลักษณะเหมือนกันมาก” ข้อความนี้หมายถึงข้อใด

• ตลาดผูกขาด

• ตลาดผู้ขายน้อยราย

• ตลาดแข่งขันสมบูรณ์

• ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด

ข้อใดเป็นสินค้าในตลาดแข่งขันสมบูรณ์

• ไฟฟ้า

• ข้าวโพด

• ผงซักฟอก

• เครื่องซักผ้า

“ประเทศไทยมีบริษัทผลิตยาสีฟันอยู่หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะมีราคาแตกต่างกัน และมีการโฆษณาแข่งขันสูง” จากข้อความนี้เกี่ยวข้องกับข้อใด

• ตลาดผูกขาด

• ตลาดผู้ขายน้อยราย

• ตลาดแข่งขันสมบูรณ์

• ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด

ข้อใดคือลักษณะของตลาดผูกขาด

• สินค้ามีลักษณะเหมือนกันมาก

• ผู้ผลิตสามารถเลิกล้มกิจการได้โดยง่ายและผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่าย

• สินค้าสามารถโยกย้ายไปยังภูมิภาคได้อย่างเต็มที่ ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดเป็นที่เปิดเผยทั่วไป

• มีผู้ผลิตหรือผู้ขายรายเดียว

สินค้าในข้อใดไม่จัดเป็นสินค้าในตลาดผู้ขายน้อยราย

• 
• 
• 
• 

ปัจจุบันตลาดใดสร้างมูลค่าการซื้อขายมากที่สุด

• ตลาดสด

• ห้างสรรพสินค้า

• ตลาดกลาง

• การขายของออนไลน์(ขายผ่านโซเชียล)

ข้อใดกล่าวผิด

• ราคาของสินค้าไม่มีผลต่อการเสนอขายสินค้าของผู้ผลิต

• เมื่อต้นทุนการผลิตลดลง ผู้ผลิตจะนำสินค้าออกมาขายมากขึ้น

• การคาดคะเนของราคาสินค้าอาจก่อให้เกิดปัญหาการกักตุนสินค้า

• จำนวนสินค้าที่เสนอขายมีความสัมพันธ์ทิศทางเดียวกันกับราคาสินค้า

บุคคลในข้อใดเข้าลักษณะการเกิดอุปสงค์

• เพทายต้องการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่มีเงินไม่พอ

• วีรวัฒฯ์ทำแจกันที่โชว์อยู่ที่ร้านตกแตก จึงต้องจ่ายค่าเสียหาย

• ชาติสิริมีเงินพอที่จะซื้อนาฬิกาแต่ยังไม่อยากซื้อ

• นพฤทธิ์นำเงินเก็บไปซื้อคอมพิวเตอร์ที่อยากได้มานานแล้ว