แบบทดสอบก่อนเรียนข้อสอบ PISA-Science สู่โลกดิจิทัลด้วยเกม

กติกาการเล่น

1.ข้อสอบเป็นข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์(Science Competency) มีทั้งหมดจำนวน 11 ข้อ เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ และแบบเซิงซ้อน ประกอบไปด้วย สถานการณ์ คำถาม และตัวเลือก

2.ให้ผู้เล่นศึกษา และอ่านสถานการณ์ที่กำหนดให้ในแต่ละเรื่อง จากนั้น ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้อง ภายในเวลา 20 วินาที

3.ข้อสอบแต่ละข้อกำหนดคะแนนไว้ ข้อละ 2 คะแนน ถ้าตอบถูกต้อง ตอบไว ก็จะได้คะแนน และทราบผลทันทีในข้อนั้นๆว่าตอบถูกหรือตอบผิด

4.ถ้าตอบถูกต้องจำนวนหลายข้อ และตอบไวภายในเวลาที่กำหนด ก็จะเป็นผู้ชนะ

เรื่อง พฤติกรรมปลาหลังหนาม

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสถานการณ์ เรื่อง พฤติกรรมของปลาหลังหนาม ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม

·ในฤดูผสมพันธุ์ท้องของปลาหลังหนามตัวผู้จะเปลี่ยนจากสีเงินเป็นสีแดง

·ปลาหลังหนามตัวผู้จะโจมตีคู่แข่งตัวผู้ตัวอื่นๆ ที่เข้ามาในบริเวณที่ครอบครองและพยายามขับไล่ออกไปจากบริเวณนั้น

·ถ้ามีปลาตัวเมียสีเงินเข้ามาใกล้ ปลาตัวผู้จะพยายามนำปลาตัวเมียไปที่รังของตัวเอง เพื่อให้ปลาตัวเมียได้วางไข่

นักเรียนคนหนึ่งทดลองเพื่อสำรวจตรวจสอบว่า  อะไรทำให้ปลาหลังหนามตัวผู้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว

ในตู้ปลาของนักเรียนได้เลี้ยงปลาหลังหนามตัวผู้ไว้หนึ่งตัว นักเรียนได้นำหุ่นของปลาที่ทำด้วยขี้ผึ้งสามแบบผูกติดไว้กับลวด  เขาแขวนหุ่นปลาทั้งสามแบบแยกกันไว้ในตู้ปลาในระยะเวลาที่เท่ากัน

แล้วนับจำนวนครั้งที่ปลาตัวผู้แสดงปฏิกิริยาอย่างก้าวร้าวโดยการพุ่งใส่ปลาขี้ผึ้ง

ผลการทดลองแสดงดังรูป

คำถามที่ 1 :การทดลองนี้พยายามตอบคำถามอะไร

ตอบอะไรน๊า ตอบถูก ไปข้อต่อไปได้เลยจ้า

• ปลาหลังหนามตัวผู้แสดงปฏิกิริยาก้าวร้าวต่อหุ่นปลาสีแดงมากกว่าหุ่นปลาสีเงินใช่หรือไม่

• มีความสัมพันธ์ระหว่างสีกับพฤติกรรมก้าวร้าวใช่หรือไม่

• สีของปลาเป็นสาเหตุให้ปลาตัวผู้แสดงอาการก้าวร้าวใช่หรือไม่

ไปต่อคำถามที่ 2 กันเลยจ้า

ในช่วงของการผสมพันธุ์ ถ้าปลาหลังหนามตัวผู้เห็นปลาตัวเมีย มันจะพยายามดึงดูดตัวเมียโดยการแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีซึ่งดูคล้ายกับการเต้นราเล็กๆ ในการทดลองครั้งที่สองได้สารวจตรวจสอบพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีนี้

อีกครั้งที่ใช้หุ่นขี้ผึ้งสามแบบผูกติดกับลวด ตัวหนึ่งสีแดง อีกสองตัวสีเงินซึ่งตัวหนึ่งมีท้องแบน ส่วนอีกตัวท้องป่อง นักเรียนนับจานวนครั้ง (ในเวลาที่กาหนด) ที่ปลาหลังหนามตัวผู้แสดงปฏิกิริยาต่อหุ่นจาลองโดยแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสี ผลการทดลองแสดงดังรูป

คำถามที่ 2 :

นักเรียนสี่คนสรุปผลของตัวเองตามผลที่ได้จากการทดลองครั้งที่สองนี้ ข้อสรุปเหล่านี้ ถูกต้องตามข้อมูลที่ได้จากกราฟหรือไม่

ให้ตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในแต่ละข้อสรุป

-ข้อสรุปนี้ถูกต้องตามข้อมูลที่ได้จากกราฟหรือไม่ ใช่ หรือ ไม่ใช่

ตอบถูกกันไหมเอ่ย

• ใช่

• ไม่ใช่

คำถามที่ 3 : ปลาหลังหนามตัวเมียท้องแบน ทำให้ปลาหลังหนามตัวผู้แสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีมากที่สุด

เย้ ตอบถูกรับคะแนนไปเลย

• ใช่

• ไม่ใช่

คำถามที่ 4 : ปลาหลังหนามตัวผู้แสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสีกับปลาตัวเมียท้องป่องมากกว่าปลาตัวเมียท้องแบน

พยายามนะ สู้สู้

• ใช่

• ไม่ใช่

คำถามที่ 5:

แผนภูมิสามรูปนี้ แสดงปฏิกิริยาที่เป็นไปได้ของปลาหลังหนามตัวผู้ที่มีต่อหุ่นแต่ละแบบด้านบน

ปฏิกิริยาใดที่นักเรียนทำนายว่าจะเกิดกับแบบจำลองของปลาแต่ละแบบ

จงเติมอักษร ก  ข  หรือ ค  เพียงตัวอักษรเดียวที่เป็นผลเกิดจากหุ่นแต่ละแบบ

ปฏิกิริยา แบบที่ 1...................แบบที่ 2......................แบบที่ 3......................แบบที่ 4................

 

 ง่ายมากเลยใช่ไหมคะ ^_^

• ค ก ค ข

• ก ข ค ค

เรื่อง แป้งขนมปัง

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสถานการณ์ เรื่อง แป้งขนมปัง ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม

การทำแป้งขนมปัง คนที่ทำจะผสมแป้ง น้ำ เกลือ และยีสต์เข้าด้วยกัน หลังจากผสมแล้วจะเก็บแป้งไว้ในภาชนะหลายชั่วโมงเพื่อให้เกิดการหมัก ในระหว่างหมักมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเกิดขึ้นในแป้งโดยยีสต์ (เห็ดราเซลล์เดียว) ช่วยเปลี่ยนแป้งและน้ำตาลในแป้งให้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และแอลกอฮอล์

 

คำถามที่ 6 :  แป้งขนมปัง                                                                                    

1.การหมักทำให้แป้งขนมปังฟูขึ้น ทำไมแป้งขนมปังจึงฟูขึ้นได้

          2. แป้งขนมปังฟูขึ้น เพราะแอลกอฮอล์ถูกสร้างขึ้นและเปลี่ยนเป็นก๊าซ

3.แป้งขนมปังฟูขึ้น เพราะยีสต์เกิดการแบ่งเซลล์เพิ่มจำนวน

     4. แป้งขนมปังฟูขึ้น เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกสร้างขึ้

5.แป้งขนมปังฟูขึ้น เพราะการหมักทำให้น้ำกลายเป็นไอ

สู้สู้นะคะ

• 1

• 2

• 3

• 4

• 5

เรื่อง  พืชดัดแปลงพันธุกรรม

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสถานการณ์ เรื่อง พืชดัดแปลงพันธุกรรม ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม

ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมควรถูกห้าม

กลุ่มอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ป่ากำลังเรียกร้องให้ยกเลิกข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม (GM)

ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยสารฆ่าวัชพืชชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพฆ่าข้าวโพดพันธุ์เดิมได้   สารฆ่าวัชพืชใหม่นี้จะฆ่าวัชพืชเกือบทุกชนิดในไร่ข้าวโพด

นักอนุรักษ์บอกว่า เนื่องจากวัชพืชเป็นอาหารของสัตว์เล็กๆ โดยเฉพาะแมลง  การใช้สารฆ่าวัชพืชใหม่กับข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมจะเป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม  แต่ผู้สนับสนุนการใช้ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมบอกว่า การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น

ต่อไปนี้คือ รายละเอียดของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวถึงในบทความข้างบน :

·      มีการปลูกข้าวโพด 200 แปลงทั่วประเทศ

·      แต่ละแปลงถูกแบ่งเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งปลูกข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม (GM) ที่ใช้สารฆ่าวัชพืชใหม่ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งปลูกข้าวโพดพันธุ์เดิมที่ใช้สารฆ่าวัชพืชเดิม

·      จำนวนแมลงที่พบในแปลงข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่ใช้สารฆ่าวัชพืชใหม่มีจำนวนพอๆ กับแมลงในแปลงที่ปลูกข้าวโพดพันธุ์เดิมที่ใช้สารฆ่าวัชพืชเดิม

 

คำถามที่ ึ7 :  การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวถึงข้างต้น มีปัจจัยใดที่ตั้งใจทำให้แตกต่างกันจำนวนของแมลงในสิ่งแวดล้อม

ตอบถูกกันไหมคะ

• ใช่

• ไม่ใช่

คำถามที่ 8 : ชนิดของสารฆ่าวัชพืชที่ใช้

ให้กำลังใจค่ะ ^_^

• ใช่

• ไม่ใช่

คำถามที่ 9 : ข้าวโพดถูกปลูกในที่ต่างๆ 200 แปลงทั่วประเทศ เพราะเหตุใดนักวิทยาศาสตร์จึงใช้พื้นที่ปลูกมากกว่าหนึ่งแห่ง

     1.เพื่อเกษตรกรจำนวนมาก จะได้ลองปลูกข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม

     2.เพื่อดูว่าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมจะเจริญเติบโตได้มากเพียงใด

     3.เพื่อให้ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมครอบคลุมพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

     4.เพื่อให้มีสภาวะที่แตกต่างกันหลายๆ แบบในการเจริญเติบโตของข้าวโพด

ไปต่อข้อต่อไปกันเลยค่ะ

• 1

• 2

• 3

• 4

เรื่อง ลิปมัน

คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาสถานการณ์เรื่อง ลิปมัน ต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม

ส่วนผสมที่แตกต่างกันสองสูตร ของเครื่องสำอางที่นักเรียนสามารถทำเองได้

ลิปสติกจะแข็งกว่าลิปมันซึ่งอ่อนและเป็นมันกว่า

ลิปมัน ส่วนผสม : น้ำมันละหุ่ง 5   กรัม ไขผึ้ง 0.2 กรัม ไขมันปาล์ม 0.2 กรัม สีผสมอาหาร 1   ช้อนชา สารแต่งรสชาติ 1  หยด

วิธีทำ : อุ่นน้ำมันและไขในภาชนะที่แช่อยู่ในน้ำร้อนจนผสมเข้ากันดี จึงเติมสีผสมอาหารและสารแต่งรสชาติ แล้วคนให้เข้ากัน

ลิปสติก ส่วนผสม :น้ำมันละหุ่ง5   กรัม ไขผึ้ง 1   กรัม ไขมั นปาล์ม    1   กรัม สีผสมอาหาร 1   ช้อนชา สารแต่งรสชาติ 1   หยด

วิธีทำ : อุ่นน้ำมันและไขในภาชนะที่แช่อยู่ในน้ำร้อน จนผสมเข้ากันดี จึงเติมสีผสมอาหารและสารแต่งรสชาติ แล้วคนให้เข้ากัน

คำถามที่ 10 :น้ำมันและไขเป็นสารที่ผสมกันได้อย่างดี น้ำมันไม่ผสมกับน้ำและไขก็ไม่ละลายในน้ำ

ข้อใดต่อไปนี้น่าจะเกิดขึ้นได้มากที่สุด ถ้าน้ำจำนวนมาก หกลงในส่วนผสมของลิปสติกในขณะกำลังอุ่น

1.ได้ของผสมที่มันและอ่อนตัวกว่า 2.  ของผสมจับตัวกันแน่นขึ้น 3. ของผสมแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย 4. มีก้อนไขมันลอยอยู่เหนือน้ำ

จะถึงเส้นชัยแล้วค่ะ

• 1

• 2

• 3

• 4