เทคนิคการกำหนดดัชนีชี้วัดผลสำเร็จของงาน KPIs ควรเป้นอย่างไร

• การวิเคราะห์วัตถุประสงค์:

• การติดตามและวัดผล:

• การประเมินผลและปรับปรุง

• ถูกทุกข้อ

การกำหนด KPIs: ในขั้นตอนนี้ คุณควรเลือกและกำหนด KPIs ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงานหรือกิจกรรม ควรเป้นอย่างไร

• มีการวัดและติดตามความสำเร็จ

• KPIs ควรเป็นตัวชี้วัดที่เป็นไปตามหลักคำสั่ง SMART

• มีการตัดสินใจและปรับปรุง

• ถูกทุกข้อ

วัตถุประสงค์ของการกำหนดดัชนีชี้วัดผลสำเร็จของงาน KPIs คือ ข้อใด

• วัดและติดตามความสำเร็จ

• การตัดสินใจและปรับปรุง

• ประเมินความสำเร็จและปัญหา

• ถูกทุกข้อ

ดัชนีชี้วัดผลสำเร็จของงาน KPIs ประกอบ ด้วยเรื่องใดบ้าง

• ปริมาณ และคุณภาพ

• ปริมาณ คุณภาพ และเวลา

• ปริมาณ คุณภาพ เวลา และค่าใช้จ่าย

• ปริมาณ คุณภาพ เวลา ค่าใช้จ่าย และความพึงพอใจ

ดัชนีชี้วัดผลสำเร็จของงาน KPIs เน้นปริมาณของงาน (Quantity-oriented) คือข้อใด

• การวัดและประเมินผลตามปริมาณของงานหมายถึงการให้ความสำคัญกับจำนวนที่ผลิตหรือทำได้

• การวัดและประเมินผลตามคุณภาพของงานหมายถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลลัพธ์ที่ได้

• การวัดและประเมินผลตามเวลาหมายถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในระยะเวลาที่กำหนด

• การวัดและประเมินผลตามความประหยัดหรือความคุ้มค่าใช้ทรัพยากรหมายถึงการให้ความสำคัญกับการอยู่ในเส้นทางทางธุรกิจที่มีต้นทุนต่ำหรือเทียบเท่า

OKR คือข้อใด

• Key Performance Indicators

• Objective and Key Results

• ใช้งานร่วมกับ Key Performance Indicators

• ถูกทุกข้อ

ควรกำหนด Objective ไม่เกินกี่ข้อ

• 1-2 ข้อ

• 1-3 ข้อ

• 3-5 ข้อ

• ถูกทุกข้อ

เราควรกำหนด KR ไม่เกินกี่ข้อ

• 1-2 ข้อ

• 1-3 ข้อ

• 3-5 ข้อ

• ถูกทุกข้อ

มี Objective คือ การสร้างยอดขายให้เติบโตแบบก้าวกระโดด ควรกำหนด KR อย่าไร

• KR : ยอดขายไม่น้อยกว่า 10 ล้าน

• KR : มี Lead ลูกค้าใหม่อย่างน้อย 60 ราย

• KR : ยอดขายเฉลี่ยต่อลูกค้าไม่น้อยกว่า 500,000 บาท

• ถูกทุกข้อ

OKR ที่ดีควรเป็นอย่างไร

• พนักงานสร้างตัววัดเอง ในขณะที่ KPI องค์กรเป็นคนจัดการให้ ด้วย OKR ทำให้พนักงานเข้าใจในงานและตระหนักมากกว่า

• โฟกัสที่อนาคต ในขณะที่ KPI เน้นอิงจากผลลัพธ์ในอดีต

• เน้นที่เป้าเกินตัว งานมีความ aggressive กว่า แต่ KPI เน้นที่ monitor ตัวเลขและทำอะไรสักอย่างเมื่อตัวเลขไม่ถึงเป้า

• ถูกทุกข้อ