การฟังและการดูอย่างมีวิจารณญาณหมายถึงอะไร

• การเชื่อทุกสิ่งที่ได้ยินและเห็นโดยไม่วิเคราะห์

• การรับฟังและรับชมข้อมูลอย่างรอบคอบ และพิจารณาเหตุผลประกอบ

• การปฏิเสธทุกสิ่งที่ได้รับโดยไม่ต้องไตร่ตรอง

ข้อใดเป็นคุณสมบัติของผู้ที่มีการฟังอย่างมีวิจารณญาณ

• เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างและพิจารณาด้วยเหตุผล

• เชื่อเฉพาะข้อมูลจากสื่อที่ตนเองชอบเท่านั้น

• ฟังเฉพาะสิ่งที่ตรงกับความคิดเห็นของตนเอง

ทำไมการตั้งคำถามจึงสำคัญต่อการฟังและการดูอย่างมีวิจารณญาณ

• เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น เพราะข้อมูลที่ได้รับมักถูกต้องเสมอ

• ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล

• ทำให้การฟังและการดูใช้เวลานานขึ้นโดยไม่จำเป็น

ข้อใดเป็นแนวทางที่ดีในการวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อ

• ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลก่อนเชื่อ

• เชื่อข้อมูลที่ได้รับมาทันทีโดยไม่ต้องพิจารณา

• แชร์ข้อมูลโดยไม่ต้องตรวจสอบความถูกต้อง

เมื่อได้รับข้อมูลที่ขัดแย้งกันจากแหล่งต่าง ๆ ควรทำอย่างไร

• ปฏิเสธทุกแหล่งข้อมูลเพราะไม่รู้ว่าอะไรถูกต้อง

• เชื่อแหล่งข้อมูลที่มีผู้ติดตามมากที่สุด

• พิจารณาหลักฐานและเหตุผลของแต่ละแหล่งข้อมูล

ข้อใดเป็นตัวอย่างของการฟังอย่างมีวิจารณญาณ

• ฟังและยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นโดยไม่ตั้งคำถาม

• ฟังอย่างตั้งใจและคิดวิเคราะห์ข้อมูลก่อนสรุปความหมาย

• ฟังเพียงบางส่วนแล้วตัดสินทันที

การใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างมีวิจารณญาณควรทำอย่างไร

• เชื่อข้อมูลจากบัญชีที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก

• ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนแชร์หรือเชื่อถือ

• แชร์ข้อมูลทันทีหากเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ

ข้อใดเป็นผลเสียของการขาดการฟังและการดูอย่างมีวิจารณญาณ

• อาจหลงเชื่อข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

• สามารถเข้าใจข้อมูลได้อย่างแม่นยำเสมอ

• ทำให้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องคิดมาก

ข้อใดเป็นวิธีที่ช่วยพัฒนาทักษะการฟังอย่างมีวิจารณญาณ

• เลือกฟังเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง

• ฟังทุกอย่างโดยไม่ต้องคิดวิเคราะห์

• ฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่ฟังและตรวจสอบข้อเท็จจริง

ทำไมการเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายแหล่งจึงเป็นสิ่งสำคัญ

• เป็นเรื่องเสียเวลา เพราะแหล่งข้อมูลหนึ่งก็เพียงพอแล้ว

• ทำให้เกิดความสับสนและไม่สามารถตัดสินใจได้

• ช่วยให้ได้มุมมองที่หลากหลายและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ