คำประพันธ์ในข้อใดใช้รสวรรณคดีแบบเสาวรจนี

• ก.  พลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวกรามคำรามร้อง

• ข. รูปก็กากปากไม่เปราะดูเหมาะเหม็ง

• ค.  ประไพพักตร์ลักษณ์ล้ำล้วนขำคม

• ง.  นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง

คำประพันธ์ในข้อใดใช้รสวรรณคดีแบบสัลลาปังคพิสัย

• ก. “นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคุนธร์ขุนไศล”

• ข. “ประไพพักตร์ลักษณ์ล้ำล้วนขำคม ทั้งเนื้อนมนวลเปล่งออกเต่งทรวง”

• ค. “พระฟังคำน้ำเนตรลงพรากพราก คิดถึงยากยามวิโยคยิ่งโศกศัลย์”

• ง. “พระโฉมยงองค์อภัยมณีนาถ เพลินประพาสพิศดูหมู่มัจฉา”

“อันเทวัญนั้นคือมัจจุราช จะหมายมาดเอาชีวิตริษยา แล้วเสแสร้งแกล้งทำบีบน้ำตา อนิจจาใจหายเจียวสายใจ”

คำประพันธ์ข้างต้นใช้โวหารภาพพจน์ชนิดใด

• ก. อุปมา

• ข. อุปลักษณ์

• ค. สัญลักษณ์

• ง. บุคคลวัต

คำใดต่อไปนี้มีพยัญชนะเสียงกลางทั้งหมด

• ก. กานต์ กลาง กลมกล่อม

• ข. ตะกร้า ตะขอ ตะปู

• ค. ปากกา ปาก ปากหวาน

• ง. ฝน ฟ้า ฟ้าแลบ

ข้อใดต่อไปนี้สามารถผันวรรณยุกต์ได้ครบทุกเสียง

• ก. น้ำ

• ข. กิน

• ค. เสียง

• ง. มา

ข้อใดใช้ลักษณะนามได้อย่างถูกต้อง

• ก. กินข้าว 1 จาน

• ข. ดื่มน้ำ 1 แก้ว

• ค. เขียนหนังสือ 1 เล่ม

• ง. ถูกต้องทั้งหมด

ข้อใดไม่ใช่ลักษณะที่เหมือนกันของภาษา

• ก. ใช้เสียงสื่อความหมาย

• ข. มีวิธีสร้างศัพท์หรือคำใหม่

• ค. ภาษามีการเปลี่ยนแปลง

• ง. โครงสร้างทางไวยากรณ์

ใครไม่สามารถนำความรู้เรื่องธรรมชาติของภาษาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

• ก. น้อยเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของภาษา

• ข. ขาวเชื่อว่าภาษาที่ดีย่อมคงไว้ซึ่งรูปเดิมของคำ แม้เวลาจะเปลี่ยนแปลงไป

• ค. นาวเชื่อว่าภาษาพูดเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าภาษาเขียน

• ง. นิ้งรู้ว่าภาษาต่าง ๆ มีลักษณะที่เหมือนและต่างกัน

“ภาษามีผลต่อความคิด ความรู้สึก และการกระทำของมนุษย์” ข้อใดสรุปได้ตรงประเด็นที่สุด

• ก. พลังของภาษา

• ข. ภาษามีผลต่อมนุษย์

• ค. มนุษย์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีภาษา

• ง. ภาษาแฝงอยู่ในทุกอย่างของมนุษย์

เรียงลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้ให้เป็นโวหารบรรยายที่สมบูรณ์

1.   ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า          2. เมฆดำลอยมาปกคลุมทั่วท้องฟ้า

3. ลมพัดแรงขึ้นจนใบไม้ปลิวว่อน                4. สักพักฝนก็ค่อย ๆ ซาลงและท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง

• ก. (2) → (3) → (1) → (4)

• ข. (3) → (2) → (1) → (4)

• ค. (4) → (3) → (1) → (2)

• ง. (1) → (2) → (3) → (4)