แบบทดสอบ ม.3

การวางลักษณะนิสัยของตัวละคร มีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร

• เพื่อให้ตัวละครแสดงตามบทของตัวเอง

• เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจว่าตัวละครมีลักษณะนิสัยอย่างไร

• เพื่อให้ผู้ชมมีอารมณ์และความรู้สึกที่คล้อยตาม

• เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น

ข้อใดจัดอยู่ในหมวดกิริยาศัพท์ 

• ก.   เปิดคาง

• ข.   ตีไหล

• ค.   เกร็งคอ

• .   รำแอ้

เพลงใดต่อไปนี้ ที่มีการใช้ท่ารำ จำนวน 2 ท่ารำ

• ก.     เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

• ข.     เพลงดอกไม้ของชาติ

• ค.     เพลงชาวไทย

• ง.      เพลงคืนเดือนหงาย

ข้อใดแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทนาฏศิลป์และการละคร

      ไปจากเดิม

• ก.   การแต่งกายที่งดงามและประณีต

• ข.   การใช้ร้านอาหารแทนโรงมหรสพ

• ค.   การรักษามาตรฐานของการแสดง

• ง.   การให้ความบันเทิงแก่บุคคลทั่วไป

นาฏยศัพท์หมายถึงข้อใด

• ก.   ศัพท์ทั่ว ๆ ไปใช้ทางนาฏศิลป์

• ข.   ศัพท์เฉพาะที่ใช้ทางนาฏศิลป์

• ค.   ศัพท์ที่ใช้ดัดแปลงท่ารำ

• ง.   ศัพท์ที่ใช้เรียกแทนเทพเจ้า

ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ รูปแบบการแสดงรำวงมาตรฐาน

• ก.   รำเป็นคู่กันระหว่าง ชาย-หญิง

• ข.   รำเป็นวงกลมแบบทวนเข็มนาฬิกา

• ค.   ก่อนรำต้องทำความเคารพกันด้วยการไหว้

• ง.   เดินย่ำเท้าไปเรื่อยๆ หนึ่งเพลงรำ 1-2 รอบ

ข้อใดคือลักษณะของการกระทุ้งเท้า

• ก.   การกระทุ้งจมูกเท้าที่อยู่ด้านหลังแล้วยกเท้าที่กระทุ้งขึ้น

• ข.   การใช้เท้ายกขึ้น โดยให้ปลายเท้าชี้ลง

• ค.   การใช้จมูกเท้าวางจรดเท้า เสือกเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อยและชะงักเท้าไว้

•       ง.    การวางเท้าข้างใดข้างหนึ่งไว้ข้างหลังด้วยจมูกเท้า เปิดส้นเท้าหลัง

“ใช้มือซ้ายจีบ ยกมือขึ้นจีบที่ระดับปาก หักข้อมือเข้าหา ใบหน้า ให้ปลายนิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มืออยู่ระดับปาก”

      ใช้สื่อความหมายในข้อใด

• ก.   ท่าหัวเราะ

• ข.   ท่าอาย  

• ค.   ท่ายิ้ม

• ง.   ท่ากิน

ชาย : นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคอพวงมาลัย เอวคาดผ้าห้อยชายด้านหน้า

      หญิง : นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบอัดจีบ ปล่อยผมประดับดอกไม้ที่ผมด้านซ้าย คาดเข็มขัด ใส่เครื่องประดับ

     เป็นการแต่งกายแบบใด

• ก.   แบบชาวบ้าน

• ข.   แบบรัชกาลที่ 5

• ค.   แบบสากลนิยม

• ง.   แบบราตรีสโมสร

เพราะเหตุใดนาฏศิลป์และการละครจึงยังคงอยู่คู่กับคนไทย

• ก.     เพราะคนไทยตระหนักในคุณค่าจึงมีการถ่ายทอด นาฏศิลป์และการละครสืบต่อมา

• ข.     เพราะผู้มีฐานะบางรายนิยมลงทุนจ้างนาฏศิลป์ และการละครไปแสดง

• ค.     เพราะชาวต่างชาติเห็นคุณค่าและชื่นชมการแสดงนาฏศิลป์และการละคร

• ง.      เพราะมีกฎหมายบังคับให้มีการจัดตั้งสถาบัน การศึกษาวิชานาฏศิลป์และการละครขึ้น