บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ

ข้อใดคือบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศบนบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบัน

• ช่วยในการให้ข้อมูลสินค้าและส่งเสริมการตลาด

• ใช้ตกแต่งเพื่อความสวยงาม

• เพิ่มราคาขายสินค้า

• ลดปริมาณวัสดุในการผลิต

การพิมพ์รหัส QR Code ลงบนบรรจุภัณฑ์มีจุดประสงค์เพื่ออะไร

• สร้างความปลอดภัยจากการโจรกรรม

• ทำให้สินค้ามีสีสันสวยงาม

• ใช้แทนรหัสแท่ง (Barcode)

• ให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมผ่านระบบออนไลน์

RFID บนบรรจุภัณฑ์ทำหน้าที่ใด

• ใช้ระบายอากาศในภาชนะ

• ตรวจสอบสินค้าปลอม

• ส่งสัญญาณระยะไกลเพื่อติดตามข้อมูลสินค้า

• ปิดผนึกบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ

หากร้านค้าต้องการให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของวัตถุดิบในอาหารได้ ควรใช้เทคโนโลยีใด

• QR Code

• ป้ายกระดาษทั่วไป

• สีเปลี่ยนอุณหภูมิ

• ฉลากพลาสติกพิมพ์ชื่อร้าน

หากสินค้าเป็นเวชภัณฑ์ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ ควรใช้ฉลากแบบใด

• ฉลากพิมพ์เลเซอร์

• ฉลากเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ

• ฉลากแถบแม่เหล็ก

• ฉลากกระดาษทั่วไป

หากนักเรียนต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นผ่านข้อมูลบนฉลาก ควรเลือกวิธีใด

• เขียนคำโปรยธรรมดา

• ติดสติกเกอร์ลายไทย

• พิมพ์ QR Code เชื่อมโยงสู่เว็บไซต์ชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยว

• ใช้รูปภาพเมืองโบราณเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง QR Code และ RFID ในการติดตามสินค้า ข้อใดคือความแตกต่างที่สำคัญ

• RFID ใช้งานยากกว่า QR Code

• QR Code แพงกว่า RFID

• RFID อ่านข้อมูลโดยไม่ต้องมองเห็น

• QR Code สามารถส่งคลื่นวิทยุ

การประเมินบรรจุภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี AR ที่ดีควรเน้นด้านใด

• ราคาและน้ำหนักเท่านั้น

• การเข้าถึงง่าย ภาพคมชัด และตอบสนองความต้องการ

• การพิมพ์สีให้สวย

• ใช้รูปแบบ 3 มิติเท่านั้น

ถ้านักเรียนได้รับมอบหมายให้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ข้าวกล้องที่แสดงข้อมูลโภชนาการและขั้นตอนการผลิตผ่านเทคโนโลยี ควรเลือกแนวทางใด

• ใช้ฟิล์มใสไม่มีฉลาก

• ใช้ฉลากสีทองอย่างเดียว

• ใช้ฉลากที่มี QR Code ลิงก์ไปยังวิดีโอแสดงการผลิต

• ใช้ลายไทยที่สวยงาม

หากต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าเกษตรเพื่อขายในห้างสรรพสินค้า นักเรียนควรสังเคราะห์องค์ประกอบใด

• ฉลากอัตโนมัติ และสีสันสดใส

• ภาพผลิตภัณฑ์จริงกับรหัสตรวจสอบย้อนกลับ

• รูปทรงแปลกตาแต่ไม่มีข้อมูล

• เน้นกระดาษอย่างเดียวไม่ใช้เทคโนโลยี