จากภาพซ้ายไปขวา เป็นโครงสร้างของอะไรตามลำดับ

• รากใบเลี้ยงเดี่ยว , รากใบเลี้ยงคู่

• รากใบเลี้ยงคู่ , รากใบเลี้ยงเดี่ยว

• ลำต้นใบเลี้ยงเดี่ยว , ลำต้นใบเลี้ยงคู่

• ลำต้นใบเลี้ยงคู่ , ลำต้นใบเลี้ยงเดี่ยว

ในลำต้นพืชใบเลี้ยงเมื่อเข้าสู่การเจริญในระยะที่สองจะไม่พบส่วนใดเลย

• คอร์เท็กซ์

• พิธ

• คอร์กแคมเบียม

• วาสคิวลาร์บันเดิล

• คอร์ก

สารที่เซลล์เอพิเดอร์มิส (epidermal cell) สร้างขึ้นเพื่อลดการคายน้ำ คือสารใด

• ซูเบอริน

• ไคติน

• คิวทิน

• ลิกนิน

• เพคติน

จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้

1. พืชใบเลี้ยงคู่โดยทั่วไปจะมีการเจริญทุติยภูมิ (secondary growth) เพียงอย่างเดียว

2. พืชใบเลี้ยงเดี่ยวโดยทั่วไปจะมีการเจริญแบบปฐมภูมิ (primary growth) เพียงอย่างเดียว

3. เนื้อเยื่อเจริญระหว่างข้อเป็นเนื้อเยื่อที่พบเฉพาะในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวเท่านั้น

ข้อใดกล่าวถูกต้อง

• 2 , 3

• 1 , 2

• 1 , 3

• ถูกทุกข้อ

ส่วนใดที่รากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและลำต้นใบเลี้ยงคู่แตกต่างกัน

• วาสคิวลาร์บันเดิล

• เอพิเดอร์มิส

• เพอริไซเคิล

• เอนโดเดอร์มิส

• คอร์กแคมเบียม

Which is plant that have root is parasitic root?

• ฝอยทอง

• พลูด่าง

• แพงพวยน้ำ

• โกงกาง

• กล้วยไม้

Which is plant that have root photosynthetic root?

• ฝอยทอง

• พลูด่าง

• แพงพวยน้ำ

• โกงกาง

• กล้วยไม้

Which is plant that have root aerating root?

• ฝอยทอง

• พลูด่าง

• แพงพวยน้ำ

• โกงกาง

• กล้วยไม้

ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลที่ได้จากวงปี

• ปริมาณน้ำฝนในแต่ละปี

• อายุของต้นไม้

• ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อเนื้อไม้

• การเจริญของไซเลม

เนื้อเยื่อชนิดใดที่ช่วยในการลำเลียงน้ำและอาหารจากท่อลำเลียงไปยังด้านข้างของลำต้น

• คอลเลงคิมา

• ซีพทิวบ์

• พาเรงคิมา

• เวสเซล

• เทรคีด