อ้วนถำได้ฟังดังนั้นก็มีความสงสารเป็นอันมาก ก็ให้แต่งโต๊ะเลี้ยง แล้วจัดแจงที่อยู่ให้เล่าปี่อาศัย “แต่งโต๊ะเลี้ยง” หมายถึง

แฮหัวตุ้นมิได้เห็นกวนอูยกออกมารบ จึงให้ทหารเลวร้องต่อล้อด่ากวนอูเป็นข้อหยาบช้า “ทหารเลว” หมายถึง

โจโฉจึงว่า ซึ่งท่านรู้ข่าวเล่าปี่แล้วจะไปหาก็ตามเถิด แต่ให้ท่านตรึกตรองดูให้เห็นควรก่อน แล้วโจโฉก็ให้กวนอูกินโต๊ะ แล้วว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะยกกลับไปเมืองฮูโต๋ “กินโต๊ะ” หมายถึง

ธรรมดาเกิดมาเป็นชายให้รู้จักที่หนักที่เบา ถ้าผู้ใดมิได้รู้จักที่หนักที่เบา คนทั้งปวงก็จะล่วงติเตียนว่าผู้นั้นหาสติปัญญาไม่ “ที่หนักที่เบา” หมายถึง

โจโฉรู้กิตติศัพท์ว่ากวนอูปฏิบัติพี่สะใภ้โดยสุจริตดังนั้น ก็สรรเสริญกวนอูว่ามีความสัตย์หาผู้เสมอมิได้ “ปฏิบัติ” หมายถึง

ซึ่งกวนกูจะขอเอาเบี้ยหวัดเล่าปี่ให้แก่พี่สะใภ้นั้น เราจะให้ทวีขึ้นอีก

“เบี้ยหวัด” หมายถึง

โจโฉมีความยินดีก็คุมทหารเข้าเมืองแห้ฝือ แล้วให้เอาเพลิงเผาเมืองขึ้น หวังจะให้กวนอูเสียน้ำใจ “เสียน้ำใจ” หมายถึง

เราจะยกกองทัพไปรบเล่าปี่ ณ เมืองชีจิ๋วฝ่ายทิศตะวันออก แต่คิดเกรงอยู่ข้างฝ่ายทิศเหนือ เกลือกอ้วนเสี้ยวรู้ จะยกกองทัพมาโจมตีเอาเมืองฮูโต๋ “เกลือก” หมายถึง

อันน้ำใจกวนอูนั้น ซื่อสัตย์ต่อเล่าปี่นัก ซึ่งจะให้คนไปเกลี้ยกล่อมเห็นกวนอูจะมิลงใจด้วย “ลงใจ” หมายถึง

ซึ่งข้าพเจ้ามาหาท่านแต่ผู้เดียวนี้ มีความอัปยศแก่คนทั้งปวงเป็นอันมาก “อัปยศ” หมายถึง