ข้อใดไม่ใช่ลักษณะในความหมายของภาษีอากร

• ก. สิ่งที่รัฐบาลบังคับจัดเก็บจากราษฎร

• ข. มีสิ่งตอบแทนโดยตรงต่อผู้เสียภาษี

• ค. เป็นการเคลื่อนย้ายทรัพยากรจากเอกชนสู่ภาครัฐ

• ง. เป็นการเคลื่อนย้ายเงินได้จากเอกชนสู่ภาครัฐ

ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการจัดเก็บภาษีอากร

• ก. หารายได้เข้ารัฐ

• ข. กระจายรายได้

• ค. เพื่อให้มีการแข่งขันกันอย่างเสรี

• ง. รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ข้อใดถือเป็นภาษีทางตรง

• ก. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

• ข. ภาษีอากรขาออก

• ค. ภาษีมูลค่าเพิ่ม

• ง. ภาษีอากรน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน

ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการเสียภาษีอากรที่ดี

• ก. มีอัตราภาษีหลายอัตรา

• ข. ความชัดเจน

• ค. ความเป็นธรรม

• ง. อำนวยรายได้

การประเมินจัดเก็บภาษีอากรในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของผู้ใดประเมิน

• ก. เจ้าหน้าที่สรรพากรท้องที่

• ข. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีประเมินตนเอง

• ค. สำนักงานบัญชี

• ง. ผู้ตรวจสอบบัญชี

การจัดเก็บภาษีโดยใช้หลักความสามารถในการจ่ายนั้นวัดได้จากอะไร

• ก. รายได้ของผู้มีหน้าที่เสียภาษี

• ข. ค่าใช้จ่ายของผู้มีหน้าที่เสียภาษี

• ค. ความเสมอภาค

• ง. ผลประโยชน์ที่ได้รับจากสวัสดิการของรัฐ

หลักความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีอากร คือข้อใด

• ก. สามารถปรับปรุงเพิ่มหรือลดจำนวนภาษี ได้ตามภาวะเศรษฐกิจ

• ข. ทุกคนจ่ายภาษีในอัตราเสมอภาคกัน

• ค. ไม่กระทบต่อกลไกตลาดในภาคธุรกิจต่าง ๆ

• ง. ประโยชน์ที่ได้รับการดูแลจากรัฐ

การจัดเก็บภาษีโดยผู้มีรายได้น้อยจะเสียภาษีในอัตราต่ำส่วนผู้มีรายได้สูงจะเสียในอัตราสูง เป็นการจัดเก็บภาษีแบบใด

• ก. อัตราคงที่

• ข. อัตราก้าวหน้า

• ค. อัตราถอยหลัง

• ง. อัตราลอยตัว

ข้อใดคือฐานภาษีอากร

• ก. มูลเหตุที่ต้องเสียภาษีอากร

• ข. การเสียภาษีอากรขั้นต่ำ

• ค. วิธีการคำนวณภาษีอากร

• ง. จำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการเก็บภาษีจากฐานใด

• ก. ฐานทรัพย์สิน

• ข. ฐานรายได้

• ค. ฐานการบริโภค

• ง. ฐานรายจ่าย