กีฬาพื้นบ้านของไทยมีมาตั้งแต่สมัยใด

• สมัยอยุธยา

• สมัยสุโขทัย

• สมัยธนบุรี

• สมัยรัตนโกสินทร์

ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของกีฬาพื้นบ้าน

• ได้หัดใช้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ

• ได้ออกกำลังกาย

• ทำให้สนุกครึกครื้น

• ทำให้เกิดความขัดแย้งจากการแข่งขัน

ข้อใดคือทักษะที่ใช้ในการเล่น วิ่งเปรี้ยว มากที่สุด

• ความเร็ว

• ความอ่อนตัว

• ความทนทาน

• การกระโดด

ข้อใดคือทักษะที่ใช้ในการเล่น กระต่ายขาเดียว มากที่สุด

• การกระโดด

• ความอ่อนตัว

• การทรงตัว

• ความเร็ว

ข้อใดคือสิ่งที่ควรมีมากที่สุดในการเล่น ชักคะเย่อ

• ความเร็ว

• ความสามัคคี

• ความเข้าใจ

• ความต่อเนื่อง

การละเล่นใดที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ประกอบ

• ปิดตาตีหม้อ

• งูกินหาง

• กระต่ายขาเดียว

• รีรีข้าวสาร

การละเล่นใดที่ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ประกอบ

• วิ่งเปรี้ยว

• หมากเก็บ

• งูกินหาง

• มอญซ่อนผ้า

กรมพลศึกษาได้รวบรวมการละเล่นพื้นบ้านไว้กี่ชนิด

• 500 ชนิด

• 700 ชนิด

• 1000 ชนิด

• 1200 ชนิด

ข้อใดเป็นการละเล่นที่ควรเล่นในร่ม

• หมากเก็บ

• ตีลูกล้อ

• วิ่งเปรี้ยว

• วิ่งกระสอบ

ข้อใดเป็นการละเล่นที่ควรเล่นกลางแจ้ง

• จ้ำจี้

• หมากเก็บ

• วิ่งเปรี้ยว

• เป่ากบ