อวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดของเสียที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกาย คือ

• Heart

• Brain

• Kidney

• Skeleton

ผู้ป่วยจะมีอุณหภูมิภายในร่างกาย สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ไม่มีเหงื่อ ปวดศรีษะ หรือมึนศรีษะ การทรงตัวไม่ดี หายใจเร็ว และตื้น หัวใจเต้นเร็ว เหนื่อย ถ้าอาการหนักจะช็อกและหมดสติ อาจทำให้เสียชีวิตได้ อาการดังกล่าว คือโรคอะไร

• โรคลมชัก

• โรคเบาหวาน

• โรคลมแดด

• โรคลมมันเย็น

ร่างกายได้รับน้ำมากที่สุดโดยวิธีใด และสูญเสียน้ำออกไปมากที่สุดโดยวิธีใด

• ร่างกายรับปริมาณน้ำได้มากทีสุดจากเครื่องดื่ม 1,600 มิลลิลิตร และสูญเสียน้ำปริมาณมากที่สุดออกไปกับปัสสาวะ 1,500 มิลลิลิตร

• ร่างกายรับปริมาณน้ำได้มากทีสุดจากอาหาร 1,600 มิลลิลิตร และสูญเสียน้ำปริมาณมากที่สุดออกไปกับปัสสาวะ 1,500 มิลลิลิตร

• ร่างกายรับปริมาณน้ำได้มากทีสุดจากเมทาบอลิซึม 1,600 มิลลิลิตร และสูญเสียน้ำปริมาณมากที่สุดออกไปกับปัสสาวะ 1,500 มิลลิลิตร

• ร่างกายรับปริมาณน้ำได้มากทีสุดจากเครื่องดื่ม 1,600 มิลลิลิตร และสูญเสียน้ำปริมาณมากที่สุดออกไปกับปัสสาวะ 2,500 มิลลิลิตร

ข้อใดจัดว่าเป็นของเหลวภายในเซลล์

• interstitial fluid

• intravascular fluid

• transcellular fluid

• intracellular fluid

ระบบใดบ้างของร่างกายที่ทำหน้าที่ประสานกันเพื่อรักษาปริมาณน้ำในร่างกายให้สมดุล

• ระบบกล้ามเนื้อโครงร่าง

  และระบบต่อมไร้ท่อ

• ระบบขับถ่าย ระบบเดียวเท่านั้น

• ระบบขับถ่าย ระบบหมุนเวียนเลือด

• ระบบขับถ่าย ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบประสาท และระบบต่อมไร้ท่อ(ฮอร์โมน)

ฮอร์โมนในข้อใดเป็น ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้ไตดูดกลับโซเดียมและน้ำเข้าหลอดเลือด และหากอยู่ในภาวะเครียดเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้ปริมาตรเลือดเพิ่มขึ้นและความดันเลือดสูงขึ้น

• adenosine triphosphase

• adrenarine

• aldosterone

• vasopressin

ร่างกายมนุษย์มีแนวโน้มมีความเป็นกรดหรือเบสมากกว่ากัน เพราะเหตุใด

• มีความเป็นเบสมากกว่ากรด

• มีความเป็นกรดมากกว่าเบส

• มีความเป็นกลาง

• มีความเป็นเบสแก่ มากกว่ากรดแก่

ข้อใดกล่าวถูกต้อง

• A คือ Afferent arteriole

  B คือ Efferent arteriole

• B คือ Afferent arteriole

  A คือ Efferent arteriole

• A คือ Pulmonary arteriole

  B คือ Efferent arteriole

• A คือ Afferent arteriole

  B คือ Pulmonary arteriole

ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกี่ยวกับหมายเลข 3

• ช่วง Descending limb มีการดูดน้ำ เข้าสู่หลอดเลือดฝอย

• ช่วง Ascending limb มีการดูดน้ำ เข้าสู่หลอดเลือดฝอย

• ช่วง Descending limb มีการดูดน้ำ และแร่ธาตุ เข้าสู่หลอดเลือดฝอย

• ช่วง Ascending limb มีการดูดแร่ธาตุ เข้าสู่หลอดเลือดฝอย

การที่ร่างกายสั่นช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างไร

• เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อเรียบ ทำให้เกิดความร้อนขึ้น อาการนี้พบได้บ่อยเมื่ออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ

• เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เกิดความร้อนขึ้น อาการนี้พบได้บ่อยเมื่ออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ

• เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่าง ทำให้เกิดความร้อนขึ้น อาการนี้พบได้บ่อยเมื่ออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ

• เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่าง ทำให้เกิดความร้อนขึ้น อาการนี้พบได้บ่อยเมื่ออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ