เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือขึ้นเนื่องในโอกาสใด

• ในงานฉลองกรุงศรีอยุธยา

• ในงานเทศกาลทอดผ้าพระกฐิน

• โดยเสด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไปนมัสการพระพุทธบาท

• โดยเสด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศประพาสทางน้ำในเดือนสิบสอง

ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่เรือคือข้อใด

• เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์เห่

• เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพ

• เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานี โดยมีโคลงสี่สุภาพนำ ๑ บท

• เป็นคำประพันธ์ที่แต่งด้วยกาพย์ยานีสลับกับโคลงสี่สุภาพต่อบท

ข้อใดไม่ใช่เรือที่มีโขนเป็นรูปสัตว์

• สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร

• คชสีห์ทีผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน

• เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง

• ดูสิงห์ยิ่งลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน 

เรือพระที่นั่งเมื่อจวนจะถึงที่ประทับ คนจะเห่ทำนองใด

• มูลเห่

• โห่เห่

• สวะเห่

• ช้าลวะเห่

กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรมีลักษณะการดำเนินเรื่องเช่นไร

• สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ ชั่วโมง

• สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ วัน

• สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ เดือน

• สัมพันธ์กับเวลาใน ๑ ปี

กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรสะท้อนให้เห็นสภาพเมืองไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายอย่างไร

• การคมนาคมใช้ทางน้ำเป็นสำคัญ

• การจราจรติดขัด เพราะสภาพน้ำท่วม

• มีการละเล่นทางน้ำที่สนุกสนานเมื่อถึงหน้าน้ำ

• ในแต่ละปีจะมีงานนักขัตฤกษ์ ซึ่งมีการเห่เรือหลวงโดยใช้บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร

กระบวนเรือที่พรรณนาไว้ในกาพย์เห่เรือมีลักษณะอย่างไร

• เป็นกระบวนเรือรบ

• เป็นกระบวนเรือที่มีหัวเรือเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ

• เป็นกระบวนเรือในพระราชพิธีพยุหยาตราทางชลมารค

• เป็นกระบวนเรือที่ประดับประด้วยดอกไม้ต่าง ๆ

ไม้ที่ต่อเสริมหัวเรือให้งอนที่เชิดขึ้นไป เรียกว่าอะไร

• กิ่ง

• เส้า

• โกลน

• โขน

“แก้มช้ำช้ำใครต้อง        อันแก้มน้องช้ำเพราะชม

 ปลาทุกทุกข์อกตรม        เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง”

คำประพันธ์ข้างต้นนี้ใช้ศิลปะในการแต่งแบบใด

• ใช้คำซ้ำ

• สัมผัสอักษร

• เล่นคำ

• สัมผัสสระ

คำประพันธ์ในข้อใดให้คุณค่าทางด้านสังคม

• นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา

• คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย

• เพียนทองงามดั่งทอง ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย

• กระแหแหห่างชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม