การพูดต่อประชุมชนคืออะไร

        

• ก.    การพูดที่แสดงความรู้แก่ผู้ฟัง

• ข.    การพูดที่เสนอแนะต่าง ๆ ต่อผู้ฟังจำนวนมาก

• ค.    การพูดแสดงความรู้แก่บุคคลอาชีพเดียวกัน

• ง.    ผู้ฟังเป็นจำนวนมากมีพื้นความรู้  รสนิยม  แตกต่างกัน

สิ่งสำคัญที่สุดในการพูดต่อประชุมชนคือข้อใด

         

• ก.สารที่ผู้พูดส่งออกไปต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคม

• ข.สารที่ผู้พูดส่งออกไปต้องเป็นเรื่องสนุกสนาน

• ค.สารที่ผู้พูดส่งออกไปรับฟังได้กับบุคคลทั่วไป

• ง.สารที่ผู้พูดส่งออกไปต้องเป็นเรื่องที่สังคมกำลังสนใจ

การพูดต่อประชุมชน  แบ่งตามวิธีนำเสนอ

         

• ก.    2  ประเภท

•   ข.    3  ประเภท

• ค.    4  ประเภท

•       ง.     5  ประเภท

การกล่าวเปิดประชุม  การกล่าวปราศรัย  และการกล่าวรายงานเป็นการพูดแบบใด

         

• ก.การพูดโดยวิธีอ่านจากร่าง

• ข.การพูดโดยวิธีท่องจำ

• ค.การพูดโดยอาศัยต้นร่าง

• ง.การพูดโดยฉับพลัน

การพูดแบบใดที่เสียเวลาและไม่ใคร่เป็นธรรมชาติ

         

• ก.การพูดโดยอาศัยต้นร่าง

• ข.การโดยวิธีท่องจำ

• ค.การพูดโดยวิธีอ่านจากร่าง

• ง.การพูดโดยวิธีท่องจำและวิธีอาศัยต้นร่าง

ข้อใดเป็นอวัจนภาษาในการพูด

           

• ก.การอ่าน

• ข.การใช้กิริยาท่าทาง

• ค.การใช้สื่ออุปกรณ์

• ง.การพูดประกอบการใช้สื่ออุปกรณ์

ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการพูดโต้วาที

           

• ก.   เมื่อโต้วาทีจบแล้วฝ่ายค้านเป็นฝ่ายสรุปก่อน

• ข.   เมื่อโต้วาทีจบแล้วฝ่ายเสนอเป็นฝ่ายสรุปก่อน

• ค.   หัวข้อที่นำมาโต้วาทีเรียกว่า  ญัตติ

• ง.    การโต้วาทีไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวฝ่ายตรงข้ามมาพูด

ลักษณะสำคัญของการพูดหรือโน้มน้าวใจคือข้อใด

         

• ก.    พูดให้เกิดความนึกคิดที่ละเอียดอ่อน

• ข.    ชักจูงให้ผู้ฟังคิดเห็นคล้อยตาม

• ค.    พูดให้เกิดความสนุกสนาน

• ง.     พูดให้คลายความตึงเครียดทั้งมวล

ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของการพูดเพื่อจรรโลงใจ

           

• ก.พูดให้เกิดความรู้

• ข.พูดเพื่อหาเสียงหรือหาคะแนนนิยม

• ค.พูดทำให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส

•        ง.พูดให้ผู้ฟังช่วยขบคิดหาทางแก้ปัญหา

การปาฐกถามีลักษณะสำคัญตามข้อใด

           

• ก.เป็นการพูดโต้แย้งระหว่างบุคคล  2  ฝ่าย

• ข.เป็นการพูดที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซักถามปัญหา

• ค.เป็นการพูดสำคัญผู้ฟังต้องประกอบอาชีพเดียวกัน

• ง.ผู้ปาฐกถาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน