ข้อใดคือความหมายของตลาดในทางเศรษฐศาสตร์

• กลุ่มของผู้ผลิตสินค้าและบริการ

• การตกลงซื้อขายกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

• สถาบันที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน

• สถานที่พบปะระหว่างประชาชนที่มีความต้องการเหมือนกัน

การจำแนกประเภทของสินค้าในตลาด ข้อใดไม่ถูกต้อง

• ลูกชิ้น : ตลาดแข่งขันสมบูรณ์

• แชมพู : ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด

• ปั๊มน้ำมัน : ตลาดผู้ขายน้อยราย 

• สัญญาณโทรศัพท์ : ตลาดผูกขาด

ข้อใดต่อไปนี้สอดคล้องกับ “กฎของอุปสงค์”

• ทุเรียนราคาถูกลง นายดำจะซื้อน้อยลง

• ทุเรียนราคาแพงขึ้น นายดำจะซื้อน้อยลง

• ทุเรียนราคาแพงขึ้น นายดำจะซื้อมากขึ้น

• ทุเรียนราคาถูกลง นายแดงจะนำมาขายมากขึ้น

ตามกฎอุปทานของผู้ผลิต เมื่อใดที่ผู้ผลิตจะมีอุปทานในสินค้าสูงขึ้น

• เมื่อสินค้ามีราคาสูงขึ้น

• เมื่อสินค้ามีราคาถูกลง

• เมื่อต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น

• เมื่อผู้บริโภคมีอุปสงค์ในสินค้าต่ำลง

ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งสหกรณ์

• เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินของสมาชิก

• เพื่อควบคุมความประพฤติของสมาชิก

• เพื่อช่วยเหลือและประโยชน์ของสมาชิก

• เพื่อนำเงินของสมาชิกไปแสวงหาผลกำไร

สถานการณ์ใดต่อไปนี้อธิบายภาวะเงินเฟ้อได้ดีที่สุด

• ราคาสินค้าในระบบเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้น

• ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจลดน้อยลง

• ปริมาณสินค้าในระบบเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้น

• การใช้จ่ายของรัฐบาลและประชาชนลดลง

ข้อใดเป็นผลที่เกิดจากภาวะเงินฝืด

• เกิดภาวะการว่างงาน

• เกิดการลงทุนเปิดกิจการใหม่

• เกิดปัญหาราคาสินค้าแพงขึ้น

• เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มสูงขึ้น

ข้อใดมาตรการที่รัฐบาลใช้ในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ

• เพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล

• ลดอัตราดอกเบี้ย

• เพิ่มการอัดฉีดเงิน

• เพิ่มการเก็บภาษี

ข้อใดมาตรการที่รัฐบาลใช้ในการแก้ไขปัญหาเงินฝืด

• เพิ่มอัตราเงินสดสำรอง

• เพิ่มอัตราดอกเบี้ย

• เพิ่มการอัดฉีดเงิน

• เพิ่มการเก็บภาษี

ข้อใดไม่ใช่ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการว่างงาน

• รายได้ของประชาชนลดน้อยลง

• การบริโภคของประชาชนลดลง

• การออมในภาคครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น

• การลงทุนของบริษัทเอกชนหดตัวลง