ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ข้อใดเป็นการป้องกันภัยจากการเกิดแผ่นดินไหว

• ปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้น

• ไม่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ

• ลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

• ปลูกสร้างอาคารหรือที่พักอาศัยให้ทนต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

ข้อใดเป็นแนวทางป้องกันภัยจากน้ำท่วม

• ใช้น้ำอย่างประหยัด

• ไม่สร้างสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางระบายน้ำ

• ไม่ปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง

• สร้างตึกสูงบริเวณที่มักเกิดน้ำท่วม

ข้อใดเป็นแนวทางการแก้ปัญหาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

• จัดสรรทรัพยากรให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

• เรียกเก็บภาษีจากผู้ที่ทำให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม

• สนับสนุนการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น

• ปลูกฝังจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม

การปฏิบัติตนในข้อใดเป็นการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน

• ปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้น

• ใช้ถุงพลาสติกแทนถุงผ้า

• ลดการใช้ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ

• เปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อระบายความร้อน

กิจกรรมของมนุษย์ในข้อใดที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

• การจุดไฟเผาวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก

• การสร้างบ้านยกพื้นสูงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ

• การขุดบ่อเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร

• การจับปลาเพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือน

กิจกรรมใดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนมากที่สุด

• การปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง

• การซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า

• การใช้สารเคมีกำจัดแมลง

• ควันเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม

การเกิดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรมีความสัมพันธ์กับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในข้อใดมากที่สุด

• การเกิดน้ำขึ้น-น้ำลง

• ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน

• การเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทร

• อุกกาบาตตกบนพื้นโลก

ข้อใดคือประโยชน์ของการเกิดภูเขาไฟปะทุ

• ทำให้อากาศโลกเย็นลง

• ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

• แหล่งน้ำใสสะอาดมากขึ้น

• อากาศบริสุทธิ์มากขึ้น

การกระทำของมนุษย์ในข้อใดเป็นสาเหตุของการเกิดน้ำท่วม

• ฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน

• การขุดลอกคลองระบายน้ำ

• ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น

• ขยะอุดตันในท่อระบาย

ข้อใดเป็นลักษณะของพายุหมุนเขตร้อน

• ก่อตัวขึ้นในทะเลหรือมหาสมุทร

• ก่อตัวขึ้นเมื่อมีอากาศหนาวเย็น

• เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหว

• เกิดบริเวณขั้วโลกเหนือ