"ปลายทางที่บัวโนส ไอเรส"
...และแล้วเครื่องบินขนส่งไปรษณียภัณฑ์สามลําจากปาตาโกเนีย ชิลีและปารากวัย ได้เดินทางกลับมาจากทางใต้ ตะวันตก และเหนือ สู่บัวโนส ไอเรส ซึ่งที่นั่นกําลังรอคอยสินค้าจาก เครื่องบินเหล่านั้น เพื่อเครื่องบินที่จะเดินทางไปยุโรปสามารถออกเดินทางประมาณเที่ยงคืนได้
นักบินสามคนที่อยู่เบื้องหลังแผงควบคุมที่ใหญ่ราวกับเรือบรรทุกสินค้าตกอยู่ในความมืด และจดจ่ออยู่กับเที่ยวบินของเขาที่กําลังเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองใหญ่ ซึ่งจะต้องลดความสูงลงอย่างช้าๆ เพื่อออกจากท้องฟ้าที่มีพายุหรือ
เงียบสงบ ราวกับคนประหลาดกําลังลงมาจากภูเขา
รีวิแอร์ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการทั้งหมด เดินไปมาในที่ลงจอดของบัวโนส ไอเรส เขายังคงเงียบจนกว่าเครื่องบินทั้งสามลําจะมาถึง ตลอดทั้งวันเขารู้สึกเหมือนมีลางร้าย เวลาผ่าน ไปนาทีแล้วนาทีเล่าจนกระทั่งมีโทรเลขมาถึง
รีวิแอร์รู้สึกว่าเขาได้ช่วงชิงบางสิ่งจากโชคชะตาซึ่ง ค่อย ๆ ลดสิ่งที่เขาไม่รู้ลงทีละน้อย และดึงลูกเรือของเขา
ให้พ้นจากความมืดมาสู่ฝั่ง
ลูกเรือคนหนึ่งติดต่อกับรีวิแอร์ด้วยข้อความทางวิทยุ :
ไปรษณียภัณฑ์จากชิลีรายงานว่าเขาสามารถมองเห็นแสงสว่างจากบัวโนส ไอเรสแล้ว
เยี่ยมมาก!!!
ไม่นานนัก รีวิแอร์ก็ได้ยินเสียงเครื่องบิน ความมืดได้ยอมปล่อยหนึ่งในนั้นออกมาแล้ว ดั่งทะเลที่มีคลื่นขึ้น ๆ ลง ๆ และสิ่งลี้ลับต้องยอมคืนสมบัติที่มันโยนเล่นไปมาเป็นเวลานานให้กับ ชายหาด ในไม่ช้ามันคงจะคืนอีกสองคน
ที่เหลือกลับมา
ในวันนี้การทํางานก็จบสิ้นลง เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่เหนื่อยล้าคงจะกลับไปนอนและมี เจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่สดชื่น
มาทําหน้าที่แทน มีเพียงแต่รีวิแอร์เท่านั้นที่ไม่ได้พัก
จากนั้นก็มาถึงคราวของไปรษณียภัณฑ์จากยุโรปที่จะเข้ามาเพิ่มความวิตกให้เขาอีก และมันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอด และตลอดไป
****************************
หมายเหตุ: “ปลายทางที่บัวโนส ไอเรส” เป็นส่วนที่ตัดมาจากนวนิยายที่เขียนในปี 1931 นวนิยายนี้ใช้ประสบการณ์การเป็นนักบินขนส่งสินค้าในทวีปอเมริกาใต้ของผู้แต่งเป็นพื้นฐาน