สพป.นฐ.1_PISAOBEC_มณียา

สพป.นฐ.1_PISAOBEC_มณียา

6th - 8th Grade

5 Qs

quiz-placeholder

Similar activities

โวหาร

โวหาร

6th Grade

10 Qs

แบบทดสอบเรื่อง สุภาษิตพระร่วง

แบบทดสอบเรื่อง สุภาษิตพระร่วง

7th Grade

10 Qs

ขัตติยพันธกรณี

ขัตติยพันธกรณี

6th Grade

10 Qs

กฎหมายใกล้ตัว 1

กฎหมายใกล้ตัว 1

7th Grade

10 Qs

การงานอาชีพ ป.6

การงานอาชีพ ป.6

6th Grade

10 Qs

ชีวิตปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ

ชีวิตปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ

7th - 9th Grade

10 Qs

แบบทดสอบการงานอาชีพ ม.2 (หน่วยที่ 3)

แบบทดสอบการงานอาชีพ ม.2 (หน่วยที่ 3)

8th Grade

10 Qs

แบบทดสอบหน่วยที่3 ทรัพยากรสารสนเทศ

แบบทดสอบหน่วยที่3 ทรัพยากรสารสนเทศ

7th Grade

10 Qs

สพป.นฐ.1_PISAOBEC_มณียา

สพป.นฐ.1_PISAOBEC_มณียา

Assessment

Quiz

Other

6th - 8th Grade

Hard

Created by

ปานทิพย์ ดอนขันไพร

FREE Resource

5 questions

Show all answers

1.

MULTIPLE CHOICE QUESTION

5 mins • 1 pt

แอปเปิ้ลราชาผลไม้ลดน้ำหนัก

ผลไม้ชนิดนี้ใครๆก็ย่อมรู้จักกันดี เป็นราชาของผลไม้ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุด นั่นก็คือ “แอปเปิ้ล”        

ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนเคยรับประทานผลไม้ชนิดนี้กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแอปเปิ้ลมีทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอีก ไม่กินไม่ได้แล้วแบบนี้

แอปเปิ้ลจะค่อยเป็นค่อยไปในการให้พลังงานที่ต่ำ แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลก็คือ น้ำตาลฟรักโทส

ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆภายในร่างกาย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหิว และอิ่มนานกว่าปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนขนมหวานที่รับประทานเข้าไป และคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้

                              ส่วนเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ล ยังมีสารแพคติน ที่มีคุณสมบัติพองตัวและช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างปกติช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงแถมยังป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย

                              แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี2 บี6  และไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะป้องกันโรคหัวใจจากผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

                              การรับประทานแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 – 4 ผลเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าปอกเปลือกเพราะส่วนดีอยู่ที่เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดีที่ไม่ต้องไปหาซื้อมารับประทานเพราะมีตามท้องตลาดทั่วไป

คำถามที่ 1 : จุดมุ่งหมายของผู้เขียนบทความนี้คืออะไร

เพื่อแนะนำให้ผู้อ่านรับประทานแอปเปิ้ลมากขึ้น

เพื่อบอกประโยชน์ของแอปเปิ้ล

เพื่อเพิ่มความต้องการบริโภคแอปเปิ้ลในตลาดให้มากขึ้น

เพื่อบอกวิธีลดน้ำหนัก

2.

MULTIPLE CHOICE QUESTION

5 mins • 1 pt

แอปเปิ้ลราชาผลไม้ลดน้ำหนัก

ผลไม้ชนิดนี้ใครๆก็ย่อมรู้จักกันดี เป็นราชาของผลไม้ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุด นั่นก็คือ “แอปเปิ้ล”        

ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนเคยรับประทานผลไม้ชนิดนี้กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแอปเปิ้ลมีทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอีก ไม่กินไม่ได้แล้วแบบนี้

แอปเปิ้ลจะค่อยเป็นค่อยไปในการให้พลังงานที่ต่ำ แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลก็คือ น้ำตาลฟรักโทส

ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆภายในร่างกาย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหิว และอิ่มนานกว่าปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนขนมหวานที่รับประทานเข้าไป และคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้

                              ส่วนเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ล ยังมีสารแพคติน ที่มีคุณสมบัติพองตัวและช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างปกติช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงแถมยังป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย

                              แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี2 บี6  และไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะป้องกันโรคหัวใจจากผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

                              การรับประทานแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 – 4 ผลเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าปอกเปลือกเพราะส่วนดีอยู่ที่เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดีที่ไม่ต้องไปหาซื้อมารับประทานเพราะมีตามท้องตลาดทั่วไป

คำถามที่ 2 : จากบทความข้างต้น สิ่งใดช่วยให้ผู้รับประมานแอปเปิ้ลรู้สึกอิ่ม

กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก

ไบโอตินและน้ำตาลมอลโทส

สารแพคตินและน้ำตาลฟรักโทส

กรดโฟลิกและกรดแพนโทเทนิก

3.

MULTIPLE CHOICE QUESTION

5 mins • 1 pt

แอปเปิ้ลราชาผลไม้ลดน้ำหนัก

ผลไม้ชนิดนี้ใครๆก็ย่อมรู้จักกันดี เป็นราชาของผลไม้ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุด นั่นก็คือ “แอปเปิ้ล”        

ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนเคยรับประทานผลไม้ชนิดนี้กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแอปเปิ้ลมีทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอีก ไม่กินไม่ได้แล้วแบบนี้

แอปเปิ้ลจะค่อยเป็นค่อยไปในการให้พลังงานที่ต่ำ แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลก็คือ น้ำตาลฟรักโทส

ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆภายในร่างกาย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหิว และอิ่มนานกว่าปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนขนมหวานที่รับประทานเข้าไป และคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้

                              ส่วนเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ล ยังมีสารแพคติน ที่มีคุณสมบัติพองตัวและช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างปกติช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงแถมยังป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย

                              แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี2 บี6  และไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะป้องกันโรคหัวใจจากผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

                              การรับประทานแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 – 4 ผลเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าปอกเปลือกเพราะส่วนดีอยู่ที่เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดีที่ไม่ต้องไปหาซื้อมารับประทานเพราะมีตามท้องตลาดทั่วไป

คำถามที่ 3 : จากบทความข้างต้น ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการรับประทานแอปเปิ้ล

ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานเป็นปกติ

ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย

ป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง

รักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

4.

MULTIPLE CHOICE QUESTION

5 mins • 1 pt

แอปเปิ้ลราชาผลไม้ลดน้ำหนัก

ผลไม้ชนิดนี้ใครๆก็ย่อมรู้จักกันดี เป็นราชาของผลไม้ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุด นั่นก็คือ “แอปเปิ้ล”        

ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนเคยรับประทานผลไม้ชนิดนี้กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแอปเปิ้ลมีทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอีก ไม่กินไม่ได้แล้วแบบนี้

แอปเปิ้ลจะค่อยเป็นค่อยไปในการให้พลังงานที่ต่ำ แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลก็คือ น้ำตาลฟรักโทส

ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆภายในร่างกาย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหิว และอิ่มนานกว่าปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนขนมหวานที่รับประทานเข้าไป และคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้

                              ส่วนเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ล ยังมีสารแพคติน ที่มีคุณสมบัติพองตัวและช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างปกติช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงแถมยังป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย

                              แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี2 บี6  และไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะป้องกันโรคหัวใจจากผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

                              การรับประทานแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 – 4 ผลเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าปอกเปลือกเพราะส่วนดีอยู่ที่เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดีที่ไม่ต้องไปหาซื้อมารับประทานเพราะมีตามท้องตลาดทั่วไป

คำถามที่ 4 : จากข้อความ “เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดี” ให้นักเรียนเลือกข้อความที่สอดคล้องกับข้อความดังกล่าวมากที่สุด

แอปเปิ้ลให้พลังงานต่ำ

แอปเปิ้ลถือว่าเป็นราชาผลไม้

แอปเปิ้ลช่วยลดน้ำหนัก

แอปเปิ้ลมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

5.

MULTIPLE CHOICE QUESTION

5 mins • 1 pt

แอปเปิ้ลราชาผลไม้ลดน้ำหนัก

ผลไม้ชนิดนี้ใครๆก็ย่อมรู้จักกันดี เป็นราชาของผลไม้ที่ทำให้ลดน้ำหนักได้ดีที่สุด นั่นก็คือ “แอปเปิ้ล”        

ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนเคยรับประทานผลไม้ชนิดนี้กันแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าแอปเปิ้ลมีทั้งคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีแล้วยังมีสารอาหารอีก ไม่กินไม่ได้แล้วแบบนี้

แอปเปิ้ลจะค่อยเป็นค่อยไปในการให้พลังงานที่ต่ำ แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลก็คือ น้ำตาลฟรักโทส

ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้าๆภายในร่างกาย จะช่วยให้ไม่รู้สึกหิว และอิ่มนานกว่าปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนขนมหวานที่รับประทานเข้าไป และคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้

                              ส่วนเปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ล ยังมีสารแพคติน ที่มีคุณสมบัติพองตัวและช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างปกติช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยดักจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ดูดซึมเข้าร่างกายเพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดสูง  โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงแถมยังป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย

                              แอปเปิลอุดมไปด้วยวิตามิน บี1 บี2 บี6  และไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิกและกรดทาร์ทาริก ช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน มีประโยชน์หลายด้านโดยเฉพาะป้องกันโรคหัวใจจากผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

                              การรับประทานแอปเปิ้ลอย่างน้อย 2 – 4 ผลเป็นประจำ และที่สำคัญอย่าปอกเปลือกเพราะส่วนดีอยู่ที่เปลือกของผลไม้ชนิดนี้ เสมือนมียาดีที่ไม่ต้องไปหาซื้อมารับประทานเพราะมีตามท้องตลาดทั่วไป

คำถามที่ 5 : “เมื่อนักเรียนได้อ่านบทความข้างต้นแล้วนักเรียนจะแนะนำให้สมาชิกในครอบครัวรับประทานแอปเปิ้ลหรือไม่ เพราะเหตุใด” ขอให้นักเรียนเลือกตอบเหตุผลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับข้อความดังกล่าวมากที่สุด

ไม่แนะนำ เพราะแอปเปิ้ลมีราคาแพง

แนะนำ เพราะแอปเปิ้ลมีประโยชน์มากมาย

ไม่แนะนำ เพราะแอปเปิ้ลมีหลายสายพันธุ์

แนะนำเพราะแอปเปิ้ลช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและระบบทางเดินอาหารให้ทำงานเป็นปกติ