คำประพันธ์ข้างต้น ผู้แต่งมีวัตถุประสงค์ใด

• ให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน

  มิฉะนั้นจะถูกครูลงโทษ

• ให้กลัวครูอย่าได้ไป

  ล้อเลียน

  มิฉะนั้นจะถูกครูลงโทษ

• ให้กลัวไม้เรียว

  เพราะถ้าถูกลงโทษจะเจ็บมาก

• ให้ระวังตัวไว้ เพราะอาจถูกครูหยิกจนช้ำเขียวได้

  ถ้าครูโกรธ

จากคำประพันธ์นี้ผู้แต่งใช้สัญลักษณ์ใดในบทกวีเพื่อสื่อถึงการลงโทษ

• ไม้เรียว

• เสียงครู

• การหยิก

• การลงโทษทางวินัย

ข้อใดสรุปใจความของคำประพันธ์ได้ดีที่สุด

• ฉ้อฉลคนเกลียด

  เมตตาคนรัก

• ทำดีอัปรีย์กินหัว

  ทำชั่วได้สุขสดใส

• ทำดีได้ดีมีที่ไหน

  ทำชั่วได้ดีมีถมไป

• สร้างบาปได้ทุกข์

  สร้างบุญเป็นสุข

“โยโสโผผาถาไป พอพระสุริใส จะใกล้โพล้เพล้เวลา”

คำว่า “โพล้เพล้” มีความหมายตรงกับคำในข้อใด

• รุ่งอรุณ

• รุ่งทิวา

• สนธยา

• ราตรีกาล

“ปลาว่าข้าเจ้าเยาวภา มิได้ไปมา อาศัยอยู่ต่อธรณี”

คำว่า “ธรณี” มีความหมายว่าอย่างไร

“ไกรกร่างยางยูงสูงระหง ตะลิงปลิงปริงประยงค์ คันทรงส่งกลิ่นฝิ่นฝาง”

คำประพันธ์นี้มีพรรณไม้กี่ชนิด

• 7 ชนิด
• 8 ชนิด

• 9 ชนิด

• 10 ชนิด

คำประพันธ์ในข้อใดบอกจุดประสงค์ของการแต่ง

กาพย์เรื่องพระไชยสุริยาเด่นชัดที่สุด

• สาธุสะจะขอไหว้

  พระศรีไตรสรณา

  พ่อแม่และครูบา

  เทวดาในราศี

• ภุมราการุญสุนทร

  ไว้หวังสั่งสอน

  เด็กอ่อนอันเยาว์เล่าเรียน

• ก ข ก กา ว่าเวียน

  หนูน้อยคอยเพียร

  อ่านเขียนผสมกมเกย

• ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย

  ไม้เรียวเจียวเหวย

  กูเคยเข็ดหลาบขวาบเขวียว

“จะร่ำคำต่อไป พอล่อใจกุมารา

ธรณีมีราชา เจ้าพาราสาวะถี”

ข้อใดมีความหมายต่างกับคำว่า

“พารา”

• คีรี

• อาณาจักร
• บุรี

• เมือง

ข้อใดไม่ใช่ข้อคิดจากเรื่องกาพย์พระไชยสุริยา

• พระมหากษัตริย์ต้องปกครองเมืองอย่างมีสติ

• ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว

• การปฏิบัติธรรม

  ย่อมนำความสุขมาให้

• ความรักทำให้คนตาบอด

สัทพจน์

คือโวหารที่มีลักษณะแบบใด