ข้อใดคือความหมายของการคิดเชิงค านวณ (Computational Thinking)

• การท่องจ าสูตรการเขียนโปรแกรม

• การเขียนโปรแกรมโดยไม่ใช้คอมพิวเตอร์

• การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนคล้ายกับการเขียนโปรแกรม

• การค านวณทางคณิตศาสตร์ด้วยเครื่องคิดเลข

ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการคิดเชิงค านวณ

• การแยกปัญหา (Decomposition)

• การคิดแบบนามธรรม (Abstraction)

• การจ าลอง (Simulation)

• การออกแบบอัลกอริทึม (Algorithm Design)

การแยกปัญหา (Decomposition) มีประโยชน์อย่างไรในการแก้ปัญหา

• ท าให้สามารถคัดลอกค าสั่งได้เร็วขึ้น

• ท าให้แก้ปัญหาเล็กๆ ได้ง่ายขึ้นก่อนรวมกัน

• ท าให้สามารถเขียนโปรแกรมได้โดยไม่ใช้โค้ด

• ท าให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น

แนวทางใดสอดคล้องกับการคิดแบบนามธรรม (Abstraction)

• ละเอียดทุกขั้นตอนของปัญหา

• ตัดข้อมูลที่ไม่จ าเป็นออก เหลือเฉพาะข้อมูลส าคัญ

• เขียนค าสั่งซ ้า ๆ ให้มากที่สุด

• สุ่มเลือกข้อมูลที่ดูน่าสนใจ

อัลกอริทึม (Algorithm) คืออะไร

ข้อใดคือการตัดข้อมูลที่ไม่จ าเป็นออก เหลือเฉพาะข้อมูลส าคัญ

• ตัดข้อมูลที่ไม่จ าเป็นออก เหลือเฉพาะข้อมูลส าคัญ

• เขียนค าสั่งซ ้า ๆ ให้มากที่สุด

• สุ่มเลือกข้อมูลที่ดูน่าสนใจ

อัลกอริทึม (Algorithm) คืออะไร

• สูตรค านวณที่ใช้ในคณิตศาสตร์

• โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

• ขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

• รูปแบบการจัดเก็บข้อมูล

ข้อใดคือตัวอย่างของการใช้แนวคิดการระบุรูปแบบ (Pattern Recognition)

• การหาค าตอบของโจทย์เลขที่ไม่เคยเจอ

• การดูตารางเวลารถไฟ

• การสังเกตว่าวันจันทร์มักจะมีรถติด

• การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม

เมื่อนักเรียนต้องการแก้ปัญหาใหญ่ด้วยการแบ่งย่อยเป็นปัญหาย่อยๆ ควรใช้แนวคิดใด

• การนามธรรม (Abstraction)

• การระบุรูปแบบ (Pattern Recognition)

• การออกแบบอัลกอริทึม (Algorithm Design)

• การแยกปัญหา (Decomposition)

ข้อใดแสดงถึงการออกแบบอัลกอริทึมที่ดี

• เขียนอัลกอริทึมโดยไม่ตรวจสอบผลลัพธ์

• ท าให้อัลกอริทึมท างานซ ้าซ้อน

• ขั้นตอนต้องชัดเจน ตรงประเด็น และสามารถท าซ ้าได้

• ใช้ภาษาพู