แหล่ง รวบรวม จัดเก็บ และเผยแพร่ ข้อมูล ให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ สอดคล้องกับข้อใดมากที่สุด

• แหล่งบันเทิง

• แหล่งสื่อสาร

• แหล่งสารสนเทศ

• แหล่งความรู้

Answer explanation

แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ครอบคลุมทั้งแหล่งบุคคล สถานที่ และระบบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต จัดเก็บ และถ่ายทอดสารสนเทศเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา วิชาชีพ และการตัดสินใจ

2. ข้อใดเป็นผลกระทบหากไม่มีแหล่งข้อมูลสารสนเทศ

• 2. ขาดแหล่งบันเทิงสำหรับประชาชน

• 2. การค้นคว้าและพัฒนาความรู้มีข้อจำกัด

• 2. ผู้เรียนไม่สามารถเข้าถึงสื่อโซเชียลได้

• การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในชุมชนลดลง

Answer explanation

แหล่งข้อมูลสารสนเทศ เป็นแหล่งสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต การค้นคว้าวิจัย และการพัฒนาทางวิชาชีพ โดยเฉพาะในสาขาวิชาสุขภาพและพยาบาลศาสตร์

ข้อใดจัดเป็นตัวอย่างของการใช้แหล่งข้อมูลสารสนเทศจากบุคคล

• การค้นหาบทความวิจัยจากฐานข้อมูล PubMed

• การสอบถามความคิดเห็นจากแพทย์เกี่ยวกับการรักษา

• การอ่านรายงานทางสถิติจากกรมอนามัย

• การเปิดดูเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (EHR)

Answer explanation

แหล่งข้อมูลบุคคลคือข้อมูลจากผู้มีความรู้เฉพาะทาง โดยการสัมภาษณ์หรือขอคำแนะนำโดยตรง ข้ออื่นเป็นลักษณะของแหล่งข้อมูลประเภทอื่น

อาจารย์มอบหมายให้นักศึกษาทำรายงานเรื่องการหกล้มในผู้สูงอายุ ควรเลือกใช้แหล่งข้อมูลใดจึงจะน่าเชื่อถือที่สุด

• สัมภาษณ์ผู้ป่วยสูงอายุ

• หนังสือและวารสารจากห้องสมุด

• ข่าวสุขภาพจากสื่อมวลชน

• เพจสุขภาพใน Facebook

Answer explanation

หนังสือและวารสารจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย
เพราะเป็น แหล่งข้อมูลสถาบัน ที่ผ่านการตรวจสอบและเชื่อถือได้ เหมาะสำหรับรายงานวิชาการมากที่สุด

ทำไมการใช้วารสารที่ผ่านการ Peer Review จึงเหมาะกับงานวิชาการ

• เข้าถึงได้เร็ว

• มีการตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ

• ใช้ภาษาที่เป็นทางการ

• ฟรีทุกบทความ

Answer explanation

วารสารที่ผ่านการ peer-review มีการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการก่อนเผยแพร่ จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่าสื่อทั่วไป

ถ้านักศึกษาไม่สะดวกใช้หนังสือจากห้องสมุด แต่ต้องการข้อมูลวิชาการที่เชื่อถือได้ ควรเลือกแหล่งข้อมูลใด

• คลิปสุขภาพใน YouTube

• บทความแชร์บ่อยใน Facebook

• บทสัมภาษณ์ผู้ป่วย

• e-database

Answer explanation

ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (e-database) เช่น CINAHL, PubMed, ThaiJo ฯลฯ สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกลตลอด 24 ชั่วโมง มีความน่าเชื่อถือ และเหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ในการสืบค้น

ถ้านักศึกษาต้องการสร้างแผ่นพับให้ความรู้เรื่อง “การป้องกันโรคหัวใจ” สำหรับประชาชนทั่วไป ควรใช้ข้อมูลจากแหล่งใดจึงจะเชื่อถือได้มากที่สุด

• กระทู้สุขภาพในเว็บบอร์ดยอดนิยม

• บทความวิชาการจากสมาคมโรคหัวใจ

• ประสบการณ์ผู้ป่วยเล่าผ่าน YouTube

• ข้อความสั้น ๆ จากเพจสุขภาพใน TikTok

Answer explanation

ข. บทความวิชาการจากสมาคมโรคหัวใจ

เหตุผล:
สมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมโรคหัวใจเป็นแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เนื้อหาผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน เหมาะสมสำหรับนำไปเผยแพร่เป็นสื่อสุขภาพแก่ประชาชน

นักศึกษาพบข้อมูลเรื่อง “การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะซึมเศร้า” ในบล็อกส่วนตัว ไม่ระบุชื่อผู้เขียน และไม่มีเอกสารอ้างอิง ควรประเมินคุณภาพของข้อมูลนี้อย่างไร

• ข้อมูลเข้าถึงสะดวก

• ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือสูง

• ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ

• ข้อมูลสามารถนำไปใช้อ้างอิงเชิงวิชาการได้

Answer explanation

ข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ

เหตุผล:
เพราะข้อมูลที่ไม่ระบุผู้แต่ง แหล่งที่มา หรือเอกสารอ้างอิง ไม่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการ จึงไม่น่าเชื่อถือสำหรับการนำไปใช้งานทางวิชาการ

ถ้านักศึกษาต้องการอ้างอิงข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ การป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ควรเลือกใช้แหล่งข้อมูลใด

• คู่มือการรักษาโรคเบาหวานที่พิมพ์เมื่อ 8 ปีก่อน

• โพสต์แนะนำสุขภาพจากแพทย์ใน Twitter

• วารสารวิชาการด้านเบาหวานที่ตีพิมพ์ปีนี้

• เว็บไซต์สุขภาพทั่วไปที่อัปเดตเมื่อ 3 ปีก่อน

Answer explanation

วารสารวิชาการด้านเบาหวานที่ตีพิมพ์ปีนี้

เหตุผล:
เพราะเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการที่ ทันสมัยที่สุด และผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน เหมาะสมสำหรับใช้อ้างอิงทางการแพทย์และการพยาบาล

นักศึกษาค้นเจอบทความในบล็อกส่วนตัวที่แนะนำวิธีรักษาโรคหัวใจด้วยการอดอาหาร แต่ไม่มีเอกสารอ้างอิงและไม่ระบุผู้เชี่ยวชาญที่เขียน ควรทำอย่างไร

• นำไปใช้อ้างอิงในรายงานวิชาการ

• . แชร์ต่อในกลุ่มเพื่อนเพราะน่าสนใจ

• อ่านไว้เป็นความรู้ทั่วไปแต่ไม่ใช้อ้างอิง

• ใช้ทันทีเพราะข้อมูลเข้าถึงง่าย

Answer explanation

อ่านไว้เป็นความรู้ทั่วไปแต่ไม่ใช้อ้างอิง

เหตุผล:
เพราะข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงหรือไม่ระบุผู้เขียน ขาดความน่าเชื่อถือ จึงไม่เหมาะกับการใช้ในงานวิชาการ อาจอ่านเพื่อความรู้ทั่วไปได้ แต่ไม่ควรนำไปอ้างอิงหรือเผยแพร่ต่อ