1. การสะสมเงินไว้ใช้ในยามที่ต้องการหรือเวลาฉุกเฉินคือความหมายของข้อใด

• ก. รายรับ
• ข. การลงทุน
• ค. การออม
• ง. รายจ่าย

2. ข้อใดไม่ใช่ข้อควรปฏิบัติในการออม

• ก. สร้างอนาคตที่มั่นคงทางการเงิน
• ข. เริ่มต้นการออมให้เร็วที่สุด
• ค. ทำบัญชีรายรับ–รายจ่าย
• ง. ออมอย่างมีวินัยและสม่ำเสมอ

3. ข้อใดคือค่าใช้จ่ายผันแปร

• ก. ค่าเช่าบ้าน
• ข. ค่าเบี้ยประกัน
• ค. ค่าผ่อนบ้าน
• ง. ค่าไฟฟ้า

4. หากนักเรียนอยากทราบพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินของตนเอง ควรทำตามข้อใด

• ก. การทำบัญชีรายรับ–รายจ่าย
• ข. การทำงบดุล
• ค. การทำงบประมาณ
• ง. การทำงบกระแสเงินสด

5. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการออม

• ก. ทำให้กิดวินัย
• ข. นำมาใช้ในยามจำเป็น เช่น เจ็บป่วย
• ค. ทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
• ง. สร้างหลักประกันชีวิตให้กับตนเอง

6. ข้อใดคืออุปสรรคของการออมเงิน

• ก. ภาวะเงินฝืด
• ข. ภาวะเงินเฟ้อ
• ค. ภาวะเงินขาดดุล
• ง. ภาวะเงินตึงตัว

7. ข้อใดคือลักษณะของการเกิดภาวะเงินเฟ้อ

• ก. ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปสูงขึ้นเรื่อย ๆ
• ข. ภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปลดต่ำลงเรื่อย ๆ
• ค. ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจที่ให้กู้ยืมมีไม่พอกับความต้องการ
• ง. ภาวะที่ระดับการขยายตัว การจ้างงานลดลง

8. ข้อใดจัดเป็นธนาคารพาณิชย์

• ก. ธนาคารออมสิน
• ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
• ค. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
• ง. บมจ.ธนาคารกรุงไทย

9. การฝากเงินประเภทใดเมื่อได้รับดอกเบี้ยทุกครั้งจะต้องมีการหักภาษ๊ ณ ที่จ่าย และได้รับดอกเบี้ยเงินฝากมากที่สุด

• ก. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์
• ข. บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์
• ค. บัญชีเงินฝากประจำ
• ง. บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน

10. หากนักเรียนต้องการฝากเงินกับบริษัทเงินทุน นักเรียนจะได้หลักฐานการฝากเงินตามข้อใด

• ก. สมุดบัญชีเงินฝาก
• ข. ตั๋วแลกเงิน
• ค. บัตรเงินฝาก
• ง. ตั๋วสัญญาใช้เงิน