เรื่องราชาธิราชได้รับการแปลจากพงศาวดารมอญในสมัยใด

• รัชกาลที่ 1

• รัชกาลที่ 2

• รัชกาลที่ 3

• รัชกาลที่ 4

เพราะเหตุใดพระเจ้ากรุงจีนจึงยกทัพมาพม่า

• เพราะต้องการขยายอาณาเขตลงมาตอนใต้

• อยากทอดพระเนตรเห็นทหารที่มีฝีมือรำทวนต่อสู้ตัวต่อตัวกับกามะนี

• ต้องการทดสอบความสามารถของแม่ทัพ

• เกิดภัยที่ประเทศของตน

เหตุใดกามะนีได้รับการยกย่องว่าไม่ใช่มนุษย์ดุจเทวดา

• มีความสามารถในการรบ

• มีรูปร่างใหญ่โตกว่าผู้อื่น

• มีความสามารถในเพลงทวน

• สามารถต่อสู้กับศัตรูได้ทีละหลายคน

ครั้นจะรับอาสาบัดนี้เล่าก็เหมือนหาบสองบ่าอาสาสองเจ้าหาควรไม่ ข้อความนี้เป็นโวหารชนิดใด

• อุปมาโวหาร

• อุปลักษณ์

• สาธกโวหาร

• พรรณนาโวหาร

"ครั้นจะรับอาสาบัดนี้เล่าก็เหมือนหาบสองบ่าอาสาสองเจ้าหาควรไม่" ทำไมสมิงพระรามจึงกล่าวเช่นนั้น

• เพราะคนเราไม่ควรทำงานสองอย่างพร้อมๆกัน

• 
  เพราะตนเองเป็นชาวมอญไม่ควรไปรับใช้ชาวพม่า

• พราะตนเองสามารถสู้รบกับพม่าแล้วยังอาสาไปสู้รบกับพระเจ้ากรุงจีนอีก

• เพราะตนเองเป็นข้าของพระเจ้าราชาธิราชแล้วยังจะมารับใช้พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องอีก

พระเจ้าฝรั่งมังฆ้องเรียกพระราชกุมารว่า เชลย ตรงกับสำนวนใด

• ได้คืบจะเอาศอก

• ปลาหมอตายเพระาปาก

• น้ำขุนไว้ใน น้ำใสไว้นอก

• ใกล้เกลือกินด่าง

ข้อใดไม่ใช่สาเหตุสำคัญในการรบชนะกามะนีของสมิงพระราม

• มีม้าดี กำลังมาก

• ทำอุบายเพื่อกาจุดอ่อนของกามะนี

• มีตระกรวยกับขอเหล็กเป็นเครื่องราง

• หลอกหล่อให้ม้าของกามะนีอ่่อนกำลังลง

เรื่องราชาธิราชมีวัตถุประสงค์ใดในการแต่ง

• เพื่อเป็นคติบำรุงปัญญาแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพาร

• เพื่อใช้เป็นตำราในการทำสงคราม

• เพื่อให้เกิดความรักชาติบ้านเมืองของตน

• เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่แม่ทัพนายกองทั้งหลาย

ข้อใดเป็นลักษณะเด่นของพระเจ้ากรุงจีน

• รักลูกน้อง

• ชอบทำศึก

• ใจเย็น

• รักษาสัตย์

ข้อใดเป็นแก่นของเรื่องราชาธิราช

• การต่อสู้คือรสชาติของชีวิต

• ความกล้าหาญเป็นคุณสมบัติของทหาร

• ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง

• ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ด้วยฝีมือและปัญญา