ข้อใดเรียงลำดับชั้นวงของดอกไม้ จากด้านในออกสู่ด้านนอกได้อย่างถูกต้อง

• 1. calyx corolla gynoecium androecium
• 2. calyx corolla androecium gynoecium
• 3. androecium gynoecium corolla calyx
• 4. gynoecium androecium corolla calyx

จากภาพ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

• 1. ก และ ข
• 2. ข และ ค
• 3. ค และ ง
• 4. ก, ค และ ง

พิจารณาตารางผลการศึกษาส่วนประกอบของดอก ดังนี้ (X = ไม่พบโครงสร้าง / = พบโครงสร้าง) พืชในข้อใดจัดเป็นดอกสมบูรณ์เพศ (perfect flower)

• 1. ก และ ข
• 2. ข และ ค
• 3. ก และ ง
• 4. ก ค และ จ

จากรูปข้อใดไม่ถูกต้อง

• 1. เป็นดอกสมบูรณ์เพศ (perfect flower)
• 2. 1 ดอกมีหลายรังไข่
• 3. เป็นดอกครบส่วน (complete flower)
• 4. 1 ดอกมีเพียงออวุลเดียว

จากรูปดอกชนิดนี้มีโอกาสจะพัฒนาไปเป็นผลชนิดใด

• 1. ผลเดี่ยว (simple fruit)
• 2. ผลกลุ่ม (aggregate fruit)
• 3. ผลรวม (multiple fruit)
• 4. ผลเดี่ยวจากดอกช่อ

เมื่อ megaspore ทำหน้าที่แบ่งเซลล์แบบ mitosis ทั้งหมด 3 ครั้ง จะได้ทั้งหมด 7 เซลล์ 8 นิวเคลียส เซลล์ใดมีจำนวนนิวเคลียสต่างจากเซลล์อื่น

• 1. egg cell
• 2. polar nuclei
• 3. synergid cell
• 4. antipodal cells

ข้อใดกล่าวถูกต้อง

• 1. microspore (2n) มีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ได้เป็น megaspore mother cell (n) จำนวน 4 เซลล์
• 2. microspore mother cell (2n) เป็นการสร้างสปอร์เพศเมีย ได้เซลล์ลูกเป็น microspore (n)
• 3. megaspore mother cell (2n) เป็นการสร้างสปอร์เพศเมีย ได้เซลล์ลูกเป็น megaspore (n)
• 4. megaspore และ microspore ต่างก็มีจำนวนชุดโครโมโซมเป็น n

จากแผนภาพ A และ B คือข้อใด ตามลำดับ

• 1. A = microspore B = megaspore
• 2. A = megaspore B = microspore
• 3. A = megaspore mother cell B = megaspore
• 4. A = microspore mother cell B = microspore

เซลล์ในตำแหน่ง A มีชื่อเรียกว่าอะไร

• 1. antipodal cells
• 2. polar nuclei
• 3. egg cell
• 4. synergid cells

ในกระบวนการปฏิสนธิคู่ (double fertilization) ไซโกต และเอ็นโดสเปิร์มเกิดจากการผสมของนิวเคลียสบ้าง ตามลำดับ

• 
• 
• 
•