ข้อใดกล่าวผิด เกี่ยวกับภาพรวมการสังเคราะห์ด้วยแสง

• light reaction เกิดที่ thylakoid

• light reaction ใช้แสง และ H₂O และ ให้ ATP, NADPH และ O₂

• Calvin Cycle ใช้ ATP, NADPH และ O₂

• Calvin Cycle เกิดที่ stroma

ข้อใดกล่าวผิด เกี่ยวกับ light saturation point

• ปริมาณความเข้มแสงที่ทำให้อัตราการตรึง CO2 สูงสุด

• ต่อให้ความเข้มแสงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าlight saturation point นี้ อัตราการตรึง CO2 ก็ไม่เพิ่มแล้ว

• light saturation point คือของพืชแต่ละชนิดมีค่าไม่แตกต่างกัน

• light saturation point คือจุดอิ่มตัวของแสง

ข้อใดคือ ความหมายของ light compensation point

• ปริมาณความเข้มแสงต่ำสุด ที่ทำให้ อัตราการตรึง CO₂ เท่ากับอัตราการหายใจ (ตรึง CO₂ = เสีย CO₂)

• จุดอิ่มตัวของ CO₂

• จุดอิ่มตัวของแสง

• ปริมาณความเข้มแสงต่ำสุด ที่ทำให้ อัตราการตรึง CO₂ สูงสุด

ข้อใดกล่าวผิด

• RuBP ตรึงได้ทั้ง CO2 และ O2

• Phosphoglycplate (PG) เกิดจากการตรึง O2 และมีคาร์บอน 2 อะตอม

• Photorespiration คือ การเปลี่ยน Phosphoglycplate (PG) กลับมาเป็น PGA ที่มีมีคาร์บอน 3 อะตอม

• Photorespiration ทำให้เกิดการเสีย O2 และพลังงาน

ออร์กาเนลที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยา photorespiration คือ

• เฉพาะ chloroplast เท่านั้น

• เฉพาะ mitochondria เท่านั้น

• เฉพาะ peroxysome เท่านั้น

• ทั้ง chloroplast, mitochondria และ peroxysome

ข้อดกล่าวผิด เกี่ยวกับ สาเหตุที่พืชมีจุดอิ่มแสง light saturation point (ต่อให้เพิ่มความเข้มแสง แต่การตรึง CO2 ไม่เพิ่มตาม)

• เมื่อแสงมาก light reaction เกิดมาก O₂ ก็เกิดมาก จึงเกิด photorespiration ตามมา

• เมื่อแสงมาก อากาศร้อนมาก พืชจึงปิดปากใบ CO₂ เข้าสู่พืชได้น้อยลง การตรึง CO₂ จึงลดลง

• เมื่อแสงมาก อากาศร้อนมาก พืชจึงปิดปากใบ O₂ ที่เกิดขึ้นจาก light reaction สะสมในใบมากขึ้น จึงเกิด photorespiration ตามมา

• เมื่อแสงมาก อากาศร้อนมาก O₂ ละลายในน้ำได้ดีกว่า CO₂ พืชจึงตรึง CO₂ ได้ลดลง

ที่มาของชื่อพืช C₃ คือ

• สารเสถียรตัวแรกจากการตรึง CO₂ คือ G3P ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม

• สารเสถียรตัวแรกจากการตรึง CO₂ คือ PGA ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม

• สารตัวแรกที่จับกับ CO₂ คือ RuBP ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม

• สารตัวแรกที่จับกับ CO₂ คือ PEP ซึ่งมีคาร์บอน 3 อะตอม

เซลล์ที่อยู่ล้อมรอบท่อลำเลียง เรียกว่า

• Vascular cell

• vein

• bundle sheath cell

• palisaid mesophyll

ความแตกต่างระหว่าง พืช C₃ กับ C₄ ข้อใดถูกต้อง

• mesophyll ของ C₄ สังเคราะห์ด้วยแสงไม่ได้ แต่ mesophyll ของ C₃ สังเคราะห์ด้วยแสงได้

• bundle sheath cell ของ C₄ สังเคราะห์ด้วยแสงได้ แต่ bundle sheath cell ของ C₃ สังเคราะห์ด้วยแสงไม่ได้

• bundle sheath cell ของ C₄ ไม่มี chloroplast แต่ bundle sheath cell ของ C₃ มี chloroplast

• mesophyll ของ C₄ ไม่มี chloroplast แต่ mesophyll ของ C₃ มี chloroplast

ข้อใด ไม่ใช่ พืช C₄

• ข้าวโพด, บ้านไม่รู้โรย

• อ้อย, หญ้าแพรก

• ข้าวโพด, ข้าวฟ่าง

• ข้าวเจ้า, ข้าวบาร์เลย์