การกำหนดสติ พิจารณากายให้รู้เห็นตามความเป็นจริง เช่นฝึกฝนโดยการเดินจงกรม หรือการนั่งสมาธิ คือ

• กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน

• เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

• จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน

• ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

การกำหนดสติ พิจารณาจิต ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ให้รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง เช่นยินดี ชอบใจ ไม่ชอบ โกรธ จัดเป็นสติปัฏฐานข้อใด

• กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• เวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• จิตตานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• ธัมมานุปัสสนาสติปัฎฐาน

การกำหนดสติ พิจารณาธรรม ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง รู้เท่าทันอารมณ์ อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น ตามหลักไตรลักษณ์ คือสติปัฏฐานข้อใด

• กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• เวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• จิตตานุปัสสนาสติปัฎฐาน

• ธัมมานุปัสสนาสติปัฎฐาน

ตามหลักอนุสสติ 10 การระลึกถึงคุณของพระธรรม คือข้อใด

• พุทธานุสสติ

• ธัมมานุสสติ

• สังฆานุสสติ

• สีลานุสสติ

การระลึกถึงทานที่ได้บริจาค และการเสียสละเผื่อแผ่ของตน คือหลักอนุสสติ 10 ข้อใด

• สีลานุสสติ

• จาคานุสสติ

• เทวดานุสสติ

• สังฆานุสสติ

การมีสติกำหนดลมหายใจเข้าออก จัดเป็นอนุสสติ 10 ข้อใด

• เทวดานุสสติ

• มรณานุสสติ

• อานาปานนุสสติ

• อุปสมานุสสติ

คำว่า "อะระหัง" แปลว่าอะไร

• เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว

• เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง

• เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

• เป็นผู้ไกลจากกิเลส

"เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม" คือ

• พุทโธ

• ภะคะวาติ

• สุคะโต

• โลกะวิทู

"เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล" หมายถึง

• สวากขาโต

• สันทิฏฐิโก

• อะกาลิโก

• เอหิปัสสิโก

คำว่า "สุปะฏิปันโน" แปลว่า

• เป็นผู้ปฏิบัติตรง

• เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง

• เป็นผู้ปฏิบัติสมควร

• เป็นผู้ปฏิบัติดี