ความรู้เกี่ยวกับไฟรถยนต์

ไฟหน้ามีกี่ประเภทหลัก?

• 3 ประเภท

• 2 ประเภท

• 1 ประเภท

• 4 ประเภท

ไฟหน้าแบบไหนที่ใช้ในเวลากลางวัน?

• ไฟหน้าแบบ LED

• ไฟหน้าแบบ Xenon

• ไฟหน้าแบบ Halogen

• ไฟหน้าแบบ Daytime Running Lights (DRL)

ไฟสัญญาณมีหน้าที่อะไร?

• แสดงเวลา

• ควบคุมการจราจร

• สื่อสารสถานะการจราจร

• แจ้งเตือนอุบัติเหตุ

ไฟสัญญาณเลี้ยวมีสีอะไรบ้าง?

• สีแดง

• สีเขียว

• สีน้ำเงิน

• สีเหลือง (หรือสีส้ม)

ไฟเบรกทำงานอย่างไร?

• ไฟเบรกทำงานโดยการใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อดึงรถให้ช้าลง

• ไฟเบรกทำงานโดยการใช้แรงดันอากาศเพื่อทำให้ล้อหมุนช้าลง

• ไฟเบรกทำงานโดยการใช้ไฟฟ้าเพื่อทำให้รถหยุด

• ไฟเบรกทำงานโดยการใช้แรงดันน้ำมันเพื่อทำให้ผ้าเบรกสัมผัสกับจานเบรกหรือดรัมเบรก

ไฟท้ายมีความสำคัญอย่างไร?

• ไฟท้ายทำให้รถมีความเร็วสูงขึ้น

• ไฟท้ายช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่โดยการเตือนผู้ขับขี่ด้านหลังเกี่ยวกับการหยุดหรือเปลี่ยนทิศทางของรถ.

• ไฟท้ายช่วยให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น

• ไฟท้ายใช้เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับรถ

ไฟตัดหมอกมีลักษณะอย่างไร?

• ไฟตัดหมอกมีความสว่างต่ำและกระจายแสงกว้างเพื่อการมองเห็นในสภาพอากาศที่มีหมอกหรือฝนตกหนัก

• ไฟตัดหมอกมีสีสันสดใสเพื่อความสวยงาม

• ไฟตัดหมอกใช้สำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืนเท่านั้น

• ไฟตัดหมอกมีความสว่างสูงและกระจายแสงแคบ

การใช้ไฟตัดหมอกควรใช้ในสถานการณ์ใด?

• ในสภาพอากาศที่มีลมแรง

• ในสภาพอากาศที่มีแสงแดดจัด

• ในสภาพอากาศที่มีหมอกหนา ฝนตกหนัก หรือหิมะตก

• เมื่อถนนแห้งและไม่มีฝน

การบำรุงรักษาไฟรถยนต์ควรทำบ่อยแค่ไหน?

• ทุก 6 เดือนหรือทุก 10,000 กิโลเมตร

• ทุก 2 ปีหรือทุก 20,000 กิโลเมตร

• ทุก 3 เดือนหรือทุก 15,000 กิโลเมตร

• ทุกปีหรือทุก 5,000 กิโลเมตร

มาตรฐานความปลอดภัยของไฟรถยนต์คืออะไร?

• มาตรฐานความปลอดภัยของไฟรถยนต์คือการใช้หลอดไฟที่มีคุณภาพและระบบไฟฟ้าที่ถูกต้องตามมาตรฐาน

• มาตรฐานความปลอดภัยของไฟรถยนต์คือการใช้หลอดไฟที่มีราคาถูก

• มาตรฐานความปลอดภัยของไฟรถยนต์คือการใช้หลอดไฟที่มีอายุการใช้งานยาวนาน

• มาตรฐานความปลอดภัยของไฟรถยนต์คือการใช้หลอดไฟที่มีสีสันสดใส