ผู้ป่วยที่มีอาการแสดงของโรคหัวใจในข้อใดที่ควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

• เหนื่อยง่าย ใจสั่น

• คลื่นไส้ ตาพร่ามัว

• เจ็บแน่นหน้าอก เหงื่อออก

• วูบ หน้ามืด เป็นลม

ผู้ป่วยที่ตรวจพบความผิดปกติในข้อใดที่ควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

• ความดันโลหิตต่ำหรือสูง

• ฟังเสียงปอดได้ยินเสียง Rhonchi

• ฟังเสียงหัวใจได้ยินเสียง MurMur

• ชีพจรเต้นช้าหรือเร็วหรือไม่สม่ำเสมอ

อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมีอะไรบ้าง

• เจลหล่อลื่น (K-Y jel)

• สำลีชุบแอลกอฮอล์หรือเจลสำหรับตรวจ EKG

• สาย Limb lead และ chest lead

• เครื่องตรวจไฟฟ้าหัวใจและกระดาษ

ขั้นตอนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจข้อใดถูกต้อง

• จัดท่าผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 90 องศา

• เก็บอุปกรณ์โลหะและโทรศัพท์ออกห่างจากตัวผู้ป่วย

• ระหว่างทำการตรวจชวนผู้ป่วยพูดคุยเพื่อผ่อนคลาย

• ไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ป่วยก่อนทำการตรวจเนื่องจากแพทย์ได้แจ้งผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว

การติด chest lead ข้อใดถูกต้อง

• V1ติดบริเวณ ICS ที่ 4ชิดขอบsternumด้านขวา

• V2ติดบริเวณ ICS ที่ 4 ชิดขอบsternumด้านซ้าย

• V4ติดบริเวณ Left MCL ตัดกับ ICSที่5

• V6ติดบริเวณLeft mid axillary line ตัดกับ ICS ที่ 6

การติด EKG 12 lead บริเวณ limb lead ข้อใดถูกต้อง

• RA ติดเหนือข้อมือขวา

• RL ติดเหนือข้อเท้าขวา

• LL ติดเหนือข้อเท้าซ้าย

• LA ติดเหนือข้อมือซ้าย

วิธีการตรวจcheckเมื่อปริ้นกระดาษ EKG ออกมาแล้วข้อใดถูกต้อง

• QRS complex หัวตั้งใน lead I,II,AVF และหัวกลับใน Lead AVR

• QRS complex หัวตั้งใน lead V1,V2,AVF และหัวกลับใน Lead AVR

• QRS complex หัวตั้งใน lead I,II,AVR และหัวกลับใน Lead AVF

• QRS complex หัวตั้งใน lead V4,V5,AVF และหัวกลับใน Lead AVR

ค่ามาตรฐานความเร็วกระดาษอยู่ที่เท่าใด

• 25mm/s 10mm/mv

  
  

• 5mm/s 10mm/mv

  
  

• 15mm/s 20mm/mv

  
  

• 30mm/s 15mm/mv